สื่อต่างชาติเกาะติดสถานการณ์การเมืองไทย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าอดีตนายกรัฐมนตรีไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อาจจะพำนักอยู่ที่โครงการหมู่บ้านจัดสรรที่มีชื่อว่า"สปริงส์" อยู่ในนครรัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ส่วนการนำเสนอข่าวของสื่อต่างชาติยังคงให้ความสำคัญกับการเคลื่อนขบวนของผู้ชุมนุมในวันนี้ (27 พ.ย.) และ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นนำเสนอข้อมูลเบื้องหลังการชุมนุมในครั้งนี้ว่าสาเหตุมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ที่แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมานานหลายปี แต่ยังคงมีอิทธิพลต่อสังคมไทย ส่วนชนวนเหตุของการชุมนุมเริ่มมาจากการประท้วงต่อต้าน ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ซึ่งจะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการนิรโทษกรรม และแม้ว่าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจะตกไป แต่พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นฝ่ายค้านพยายามใช้โอกาสนี้โค่นล้มรัฐบาล
จุดมุ่งหมายที่ผู้ประท้วงต้องการคือการโค่นล้มสิ่งที่เรียกว่าระบอบทักษิณ ซึ่งการประท้วงในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นสูง และชนชั้นกลาง ส่วนผู้สนับสนุนของฝ่ายรัฐบาล เป็นประชาชนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นอกจากนี้สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นยังได้สัมภาษณ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความเสี่ยงของบริษัท"พีคิวเอ แอสโซซิเอท" ที่มองว่าการชุมนุมในครั้งนี้ไม่น่าจะเกิดความรุนแรงเหมือนปี 2553 แต่รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ น่าจะหาทางออกด้วยการยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่ และการชุมนุมในครั้งนี้ทำให้เสถียรภาพของประเทศไทยสั่นคลอนอีกครั้ง ซึ่งไทยนั้นถือเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญของภูมิภาค
ส่วนเหตุการณ์จะยุติอย่างไร ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะควบคุมสถานการณ์ รวมถึงแรงกดดันทางการเมือง ซึ่งจนถึงขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ใช่ความรุนแรงสลายการชุมนุมอย่างแน่นอน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกแถลงการณ์ว่าในฐานะที่ไทยเป็นมิตรประเทศ รัฐบาลจีนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก หาทางแก้ปัญหาด้วยการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง ความมีเสถียรภาพของไทยไม่เพียงแต่ยึดโยงกับผลประโยชน์ของคนไทยเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความมีเสถียรภาพและความมั่งคั่งในภูมิภาคอีกด้วย ทั้งนี้สถานทูตจีนในไทยเป็นหนึ่งในหลายๆประเทศ ที่ประกาศเตือนพลเมืองของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สถานที่ชุมนุม