ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับตา "เศรษฐกิจไทย" หลังการเมืองร้อน-นักลงทุนไม่มั่นใจเสถียรภาพ

เศรษฐกิจ
27 พ.ย. 56
14:00
61
Logo Thai PBS
จับตา "เศรษฐกิจไทย" หลังการเมืองร้อน-นักลงทุนไม่มั่นใจเสถียรภาพ

ความวุ่นวายทางการเมืองที่ยังมองไม่เห็นปลายทางที่ชัดเจน กำลังมีผลต่อความกังวลของชาวต่างชาติมากขึ้น ทั้งคำประกาศเตือนการเดินทางมาไทยกว่า 20 ประเทศ รวมถึง การเทขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ ภายในเวลาไม่กี่วัน กำลังสะท้อนความไม่มั่นใจในเสถียรภาพ และทิศทางเศรษฐกิจ

ภาวะตลาดทุนของไทยในช่วงเวลานี้ เป็นดัชนีสำคัญ สะท้อนความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจและการเมือง เห็นได้จากการเทขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ เฉพาะเดือนพฤศจิกายนที่เผชิญกับอุณหภูมิร้อนทางการเมืองหลายเหตุการณ์ ทำให้มูลค่าซื้อขายสุทธิติดลบมากกว่า 40,000 ล้านบาท

 
ความไม่มั่นใจ ยังทำให้เงินทุนถูกโยก หรือ ไหลออกจากตลาดทุน ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง อย่างผิดปกติ จากเดิมประมาณ 31 บาท เป็น 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในเวลาไม่ถึง 1 เดือน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ ค่าเงิน แข็งค่าสะท้อนทิศทางการลงทุน และเงินที่ไหลเข้าประเทศ
 
  
 
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ม.หอการค้าไทย ยังเปรียบเทียบผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากสถานการณ์การเมืองในอดีต ทั้งเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549 และ ความรุนแรงจากการชุมนุมปี 2553 ไม่ได้กระทบกับตลาดทุนมากนัก เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจขณะขยายตัวได้ดี ต่างจากเวลานี้ที่เศรษฐกิจมีสัญญาณชะลอตัว ตลอดทั้งปี
 
สองสัปดาห์เศษ ที่การชุมนุมถูกขนานนามว่า "ยกระดับขึ้น" กว่า 20 ประเทศ ประกาศเตือนประชาชนที่จะเดินทางมาไทย นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ ยอมรับว่า ภาคท่องเที่ยว ยังไม่มีแผนรับมือ และขาดกลยุทธ์ใหม่ๆ ทำให้ถูกยกเลิกการเดินทางท่องเที่ยวไทยแล้ว ร้อยละ 40 ของการจองผ่านบริษัททัวร์ทั้งหมด และเชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก หากสถานการณ์ยืดเยื้อ จนอาจประเมินว่า ความเสียหายคิดเป็นหลายพันล้านบาท และมีผลต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่
 
  
 
ความกังวลด้านเศรษฐกิจในเวลานี้ คือ ผลกระทบที่จะยาวนานออกไป ตามปัญหาทางการเมืองที่ยืดเยื้อ แต่อาจารย์ ธนวรรธน์ มองว่า คาดเดายาก เพราะการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา และการยุบสภาอาจไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง สิ่งสำคัญคือ นโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน สองล้านล้านบาท จะถูกสานต่อหรือไม่ เพราะเป็นความหวังของการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจปีหน้า


ข่าวที่เกี่ยวข้อง