บทเพลงรักชาติ

เมื่อเนื้อหาเพลงถูกกำหนดด้วยเรื่องทางการตลาด ก็ดูจะเป็นข้อจำกัดในการทำงาน แต่ในวันที่เดินหนีจากระบบเชิงธุรกิจแล้ว เทพนม สุวรรณะบุณย์ ก็เลยทำหน้าที่ของนักแต่งเพลงได้อย่างเสรี โดยเฉพาะบทเพลงรักชาติ ที่ไม่เคยมีโอกาสได้แต่งมาก่อน

หลังจากได้โจทย์เรื่องความจงรักภักดี เทพพนม สุวรรณะบุณย์ ก็ใช้เวลา เกือบ 4 เดือนค่อย ๆ คิด ปะติดปะต่อคำสำคัญที่มีความหมาย จนได้เนื้อเพลง "อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี " บทเพลงชนะเลิศอันดับ 1 โครงการประกวดแต่งเพลงรักชาติ การแต่งบทเพลงเพื่อความสามัคคี และยังแสดงความภักดีต่อพระมหากษัตริย์ได้อย่างน่าฟัง และเต็มไปด้วยเรื่องราวภายใน 3 นาที เป็นความท้าทายที่นักแต่งเพลงวัย 59 ปี อยากลองทำประจวบเหมาะกับการเป็นนักแต่งเพลงอิสระในหลายปีหลัง ที่ไม่จำเป็นต้องขึ้นกับค่าย หรือการตลาดอีกต่อไป นี่จึงครั้งสำคัญในชีวิตนักแต่งเพลงที่ได้ปล่อยท่วงทำนอง คำร้อง โลดแล่นตามความรู้สึกอย่างแท้จริง

อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี เป็นเพลงที่นำมารับใช้สังคมอีกหลายครั้ง เมื่อเกิดการสูญเสียกับรั้วของชาติ แสดงความสดุดีกับเหล่าทหารที่เสียสละชีพเพื่อส่วนรวม เบื้องหลังความสำเร็จของนักร้องเจ้าของบทเพลงรัก อย่างปั่น ไพบูลย์ เกียรติเขียวแก้ว โดม ปกรณ์ ลัม แหม่ม พัชรธิดา และเจมส์ เรืองศักดิ์ ส่วนหนึ่งมาจากปลายปากกาของเทพนม ก่อนช่วงท้ายของอาชีพนักแต่งเพลงภายใต้สังกัด จะหยุดลงในชุดหนุ่มบาว-สาวปาน หัวใจหลักในการทำงาน นอกจากเนื้อหาที่ถึงใจ ยังต้องมีประโยคเด็ดให้จดจำ ไม่ต่างจากการแต่งเพลงเฉลิมพระเกียรติในแบบของเทพพนม

เทพพนมเกิดในครอบครัวนักดนตรี ทั้ง 3 พี่น้องโลดแล่นอยู่ในวงการเพลงทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลังให้กับค่ายเพลงใหญ่ของเมืองไทย ทุกวันนี้เทพพนมยังช่วยทำงานเพลงให้พี่ชาย ในนามวงนั่งเล่นควบคู่กับการทำธุรกิจส่วนตัว บทเพลงแนวรักชาติ จึงเป็นการพิสูจน์ฝีมือการทำงานบนเส้นทางดนตรี ที่ยาวนานของนักแต่งเพลงคนนี้ ที่ใช้ดนตรีตอกย้ำปณิธาน และหน้าที่ของพสกนิกรชาวไทย