นักวิชาการเชื่อไทยยังไม่ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ
สถานการณ์ทางการเมืองของไทยส่งผลให้บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ รายใหญ่ของโลก 2 แห่ง ได้แก่ ฟิทช์ เรทติ้ง และมูดีส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส ส่งหนังสือถึงกระทรวงการคลังว่า หากปัญหาการเมืองยืดเยื้ออาจปรับลดความน่าเชื่อถือของไทยลง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ขณะนี้ไทยยังไม่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับ เนื่องจากแนวโน้มอัตราการขยายตัวของไทยยังอยู่ในระดับดี และหากการเมืองคลี่คลายและการลงทุนเป็นไปตามเป้าหมายก็จะไม่มีผลกระทบ เนื่องจากไทยมีแผนการลงทุนระยะยาวที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่หากสถานการณ์ทางการเมืองยืดเยื้อ และส่งผลให้การลงทุนไม่เป็นไปตามแผน อาจส่งผลให้บริษัทจัดอันดับปรับเปลี่ยนมุมมองจากไทยได้
ด้านนายปีเตอร์ จอห์น แวน ฮาเรน ประธานหอการค้าไทย-แคนาดา กล่าวถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างจากในขณะนี้ว่า เหตุการณ์ทางการเมืองส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อย ต่อนักลงทุนรายใหม่ๆ ที่เริ่มชะลอการเข้ามาลงทุนในไทย เพื่อรอดูสถานการณ์ เพราะยังกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นอีกหรือไม่
ทั้งนี้นักลงทุนที่อยู่ในประเทศไทย เข้าใจสถานการณ์เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ และการวางแผนการลงทุนเป็นแผนระยะยาวหากสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อก็ไม่มีผลกระทบ
ปัจจุบันบริษัทมูดี ให้อันดับความน่าเชื่อถือของไทยที่ระดับ Baa1 ส่วนบริษัทฟิทช์ เรทติ้ง ให้เรตติ้งไทยที่ระดับ BBB+ ซึ่งถือว่าเป็นระดับแนะนำให้เข้ามาลงทุนได้