สำรวจการค้า ถ.ราชดำเนิน
ร้านค้าประเภทขายอาหารและขายเครื่องดื่ม บริเวณถนนราชดำเนิน ทำรายได้ค่อนข้างดีในช่วงที่ผ่านมา และพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยกลัวกับเหตุการณ์ชุมนุม นอกจากนี้ ยังมีคนบางกลุ่มที่ทำอาชีพนวดแผนโบราณ ยอมหยุดงานประจำ มาตั้งร้านในพื้นที่ที่มีการชุมนุม
ร้านขายบางร้านที่เพิ่งเปิดได้ 6-7 เดือน เจ้าของร้านบอกว่า ช่วงนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ของร้าน คือ กลุ่มผู้มาชุมนุม จากปกติ..ลูกค้าหลักของร้านเป็นชาวต่างชาติ แต่ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีแล้ว เธอยอมรับว่ายอดขายดีขึ้น แต่ถ้าเลือกได้ก็อยากให้บ้านเมืองสงบมากกว่า
เจ้าของร้านจักรเย็บผ้าที่อาศัยอยู่บริเวณถนนราชดำเนินมานานกว่า 40 ปีแล้ว จึงไม่กลัวการชุมนุม และอาชีพที่เธอทำก็คือ เย็บผ้าและขายเครื่องดื่ม บริเวณด้านหลังเวทีชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน มีร้านบริการนวดแผนโบราณด้วย หมอนวดแผนโบราณคนนี้เล่าให้ฟังว่า ปกติทำงานที่ร้าน แต่ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ชุมนุม ก็จะขอเจ้าของร้านหยุดงาน และรวมตัวกับเพื่อนที่มีอาชีพเดียวกันประมาณ 10 คน ไปตั้งร้านรับนวดใกล้ๆ กับบริเวณที่มีการชุมนุม แต่ละวันหมอนวดแผนโบราณ 1 คน จะบริการลูกค้า ซึ่งมีทั้งชาวไทยและต่างชาติ ประมาณ 10-15 คน โดยคิดค่าบริการชั่วโมงละ 150 บาท เธอบอกว่า เธอเป็นเพียงคนทำงานหาเช้ากินค่ำ ที่ไหนพอมีรายได้ก็จะไป ส่วนเหตุการณ์บ้านเมืองก็อยากให้ทุกคนปรองดองกัน
ธุรกิจรายย่อย หรือ กลุ่มคนที่ทำอาชีพหาเช้ากินค่ำ อาจไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากการเมือง แต่สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ อย่างการจัดงานอีเว้นท์ ผู้ประกอบการ ได้เลื่อนการจัดงานออกไปบางส่วนแล้ว เพราะบรรยากาศไม่เหมาะกับการจัดงานในลักษณะบันเทิงและการเปิดตัวสินค้าใหม่
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ นายกสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน หรือ อีเวนท์ บอกว่า ภาพรวมธุรกิจอีเวนท์ไตรมาส 4 ปีนี้ไม่คึกคัก ส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์ชุมนุมทางการเมือง แต่หากหากประเมินตั้งแต่ต้นปี ก็เติบโตไม่มากเช่นกัน เนื่องจากกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง เพราะปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน ส่งผลให้ยอดขายสินค้าไม่เป็นไปตามเป้า จึงคาดว่าธุรกิจอีเว้นท์ปีนี้จะไม่ขยายตัว เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีมูลค่า 15,000 ล้านบาท