เพื่อไทยเสนอแก้ รธน.มาตรา 291 แทนตั้งสภาประชาชน

พรรคเพื่อไทย ยืนยัน การขอพระราชทานนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7 เป็นไปไม่ได้ระบุใน รธน.ปี'50 โดยเสนอว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญ และเขียนบทเฉพาะกาลดึงคนนอกร่วมแก้ปัญหา แนะตั้งวงพูดคุยหาทางออกประเทศ ขณะที่ประธาน วิปรัฐบาล แนะถ้าจะกำหนดกติกาใหม่ต้องให้ ส.ส.ร.ร่าง พร้อมให้นักการเมืองชุดเก่าหยุดลงเล่นการเมือง

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี พยายามพูดคุยกับนาย สุเทพ แต่ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ข้อเสนอของนายสุเทพ โดยเฉพาะมาตรา 3 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. อ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรี มาตรา 7 เป็นไปได้ยาก รัฐบาลไม่ต้องการฉีกรัฐธรรมนูญ

ด้านนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วิธีที่สามารถมีนายกรัฐมนตรี มาตรา 7 ได้ในขณะนี้คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 โดยเขียนบทเฉพาะกาลว่า ในช่วงที่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งในบ้านเมือง ขอให้มีนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลเฉพาะกาลที่มาจากคนนอกเพื่อแก้ปัญหา จากนั้นค่อยยุบสภาฯ คืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่ หรือนายสุเทพไปตั้งพรรคการเมืองแล้ว เสนอแนวคิดปฏิรูปประเทศตามที่ต้องการ หากนายสุเทพได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็มีอำนาจโดยชอบธรรม ที่จะทำให้สภาประชาชนถูกต้องตามกฎหมาย

นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เสนอว่า ควรนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ที่ค้างไว้มาโหวตวาระ 3 ตั้งส.ส.ร.ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญ และเสนอว่าให้นักการเมือง ส.ส. และ ส.ว.ทั้งอดีตและปัจจุบัน รวมถึงผู้ที่เป็นแกนนำทางการเมืองต้องยุติบทบาท ห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกตลอดชีวิต ให้คนหน้าใหม่เข้ามาและต้องเปลี่ยนแปลงทุกๆ 4 ปี ส่วนองค์กรอิสระก็ให้ ส.ส.ร.เลือกขึ้นมาใหม่ ขณะเดียวกันก็เชิญนักวิชาการมาออกแบบนโยบายภาคบังคับ ให้ทุกพรรคการเมืองต้องทำหากเข้ามา บริหารประเทศ เขียนให้ชัดต้องทำงานด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองอย่างไร เมื่อเขียนกติกาเสร็จแล้วค่อยยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ แนวทางนี้เชื่อว่าจะแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองได้

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย เสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อเขียนบทเฉพาะกาลว่าขอให้มีนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลเฉพาะกาลที่มาจากคนนอกว่า ไม่ทราบว่าเรื่องนี้เป็นความเห็นที่ตกผลึกของรัฐบาลหรือไม่ เกรงว่าจะเป็นการโยนหินถามทางไปเรื่อย ขณะนี้รัฐบาลพยายามซื้อเวลาในการแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นมากกว่าการคิดหาทางออกอย่างจริงจัง เห็นได้จากการที่นายกรัฐมนตรีใช้วิธีการเดิมคือเสนอให้ทุกฝ่ายร่วมพูดคุยในเวทีปฏิรูปการเมืองของรัฐบาล ทั้งที่เวทีดังกล่าวเคยเสนอมาแล้วแต่ไม่ได้รับการตอบรับจากสังคมและทำให้เห็นชัดเจนว่าเวทีนี้ไม่ได้ผล