รมว.พลังงาน ไม่ยืนยันตรึงดีเซลลิตรละ 30 บ. หลัง ธ.ค. นี้
แม้รัฐบาลได้ยุบสภาไปแล้ว แต่นโยบายด้านพลังงานที่ได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ ก็ยังจะเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการทยอยปรับราคาก๊าซหุงต้ม หรือ แอลพีจีภาครัวเรือน และการปรับค่าไฟฟ้า ขณะที่โครงการขนาดใหญ่ เช่น การประมูลโรงไฟฟ้า ก็ต้องระงับไว้ก่อน
การปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ หรือ เอ็นจีวี ก็ต้องชะลอออกไปก่อนเช่นกัน โดยต้องรอการตัดสินใจจากรัฐบาลชุดใหม่ แต่นโยบายที่ดำเนินการมาแล้วและกำลังจะหมดอายุ อย่าง การตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร กระทรวงพลังงานจะดำเนินการอย่างไร
การตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ทำได้โดย การใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแล และ การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เหลือ 0.005 บาทต่อลิตร จากอัตราเดิม 5.31 บาท ต่อลิตร แต่ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยืนยันไม่ได้ว่า รัฐบาลรักษาการจะทำเรื่องเหล่านี้ต่อได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องหารือกับ คณะกรรมการกำกับการเลือกตั้ง หรือ กกต.ก่อน
ทั้งนี้ จากเงินบาทที่อ่อนค่า ราคาน้ำมันโลกขยับขึ้น ส่งผลกองทุนน้ำมันฯ ต้องอุดหนุนดีเซลลิตรละ 60 สตางค์ และมีเงินไหลออกจากกองทุนน้ำมันฯ 144 ล้านบาทต่อวัน ทำให้กองทุนมีเงินเหลือประมาณ 3,000 ล้านบาท
<"">
<"">
นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 57 อาจยังไม่สามารถปรับราคาน้ำมันดีเซลได้ จากเดิมที่ต้องการทยอยขยับราคา เพื่อสะท้อนต้นทุน นอกจากนี้ การปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี ต้องระงับไปก่อน ซึ่งตามแผนเดิมจะปรับในเดือน ม.ค.-ก.พ. ปี 57 ทั้งนี้ จะเตรียมศึกษาเรื่องนี้ไว้ เพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณา
แต่การทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน เดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม จาก 18 บาท 13 สตางค์ ต่อกิโลกรัม เป็น 24 บาท 82 สตางค์ ต่อกิโลกรัม ยังเดินหน้าต่อ ซึ่งวันที่ 1 มกราคมปี 57 จะขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ส่วนค่าไฟฟ้างวดใหม่ที่จะปรับในเดือนมกราคม ก็ดำเนินการต่อเช่นกัน รวมถึงกลางเดือนนี้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานหรือเรกูเลเตอร์ ก็จะพิจารณาต้นทุนเพื่อคำนวณค่าไฟ ที่จะเรียกเก็บในบิลรอบใหม่ ม.ค. - เม.ย. ปี 57