อุตุฯ เตือนภาคเหนือ-ใต้ระวังฝนตกหนัก เตรียมรับมืออุณหภูมิที่ต่ำลง
กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนหลายจังหวัดภาคเหนือ ให้เตรียมรับมือกับอุณหภูมิที่คาดว่าจะลดต่ำลงอีกในช่วงสัปดาห์นี้ ขณะที่เมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) บางพื้นที่กลับมีพายุฝน และลมกระโชกแรง สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ปัว และท่าวังผา จ.น่าน
เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลปัว อ.ปัว จ.น่าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ซ่อมแซมทรัพย์สินและตัดต้นไม้ที่ล้มขวางถนน หลังเกิดพายุฝนและลมกระโชกแรง
โดยเฉพาะภายในหมู่บ้านไร่รวงทอง บ้านปรางค์ บ้านนาปาน และบริเวณตลาดสดเทศบาลตำบลปัว ต้นไม้ ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และเสาไฟฟ้า โค่นทับหลังคาบ้าน รถยนต์ และทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก รวมทั้งทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง เช่นเดียวกับอ.ท่าวังผา ที่เกิดพายุฝน พัดต้นไม้ใหญ่โค่นทับบ้าน และโรงจอดรถ ภายในสถานีตำรวจภูธรท่าวังผาเสียหาย เช่นกัน
สภาพอากาศที่มืดครึ้ม และมีฝนตกเกือบตลอดทั้งวัน ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ที่ปกติจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ฝนตกต่อเนื่องในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวค่อนข้างเงียบเหงา
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ช่วงวันที่ วันนี้ไปจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม อิทธิพลความกดอากาศสูงจากจากจีน จะทำให้ให้ประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิจะลดลงอีก 8-10 องศาเซลเซียส
เช่นเดียวกับจ.สงขลา ผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา ต้องยกกระชังเลี้ยงปลาให้สูงขึ้น หลังศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกแจ้งเตือนฝนตกหนัก และคลื่นลมแรงในช่วงสัปดาห์นี้
ขณะที่จ.ยะลา, ปัตตานี, สงขลา, พัทลุง, นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่เตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ระมัดระวังอันตรายที่อาจจะเกิดจากฝนตกหนักไปจนถึงวันที่ 18 ธันวาคมนี้
ส่วนจ.บุรีรัมย์ ซึ่งไม่เผชิญกับพายุฝน ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดินทางไปชมความงดงาม และสัมผัสอากาศหนาวบนอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ และปราสาทเมืองต่ำ อ.ประโคนชัยกันอย่างคึกคักเฉลี่ยถึงวันละกว่า 5,000 คน