เรียกร้องรัฐบาลพิจารณาให้
นักการเมืองบราซิล เริ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาให้ นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ลี้ภัย หลังจากที่เขาเขียนจดหมายเปิดผนึกแสดงความเต็มใจจะช่วยรัฐบาลบราซิลสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับโครงการดักฟังของสหรัฐต่อบราซิล ขณะที่ทำเนียบขาวออกแถลงข่าวปิดทางนิรโทษกรรม นายสโนว์เดน
นายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐ เชิญผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีชั้นแนวหน้าของโลกไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารบริษัทกูเกิ้ล ทวิตเตอร์ และแอปเปิ้ล ไปจนถึงบริษัทโทรคมนาคมในประเทศ รวม 7 บริษัท เข้าหารือที่ทำเนียบขาว โดยประเด็นในการหารือหลัก คือการซ่อมแซมเว็บไซต์ โครงการประกันสุขภาพโอบาม่าแคร์ และการปฏิรูปเทคโนโลยีสารสนเทศของภาครัฐ แต่มีรายงานการหยิบยกโครงการดักฟังของ NSA มาหารือเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ มีหลายบริษัทเช่น ยาฮูไมโครซอฟท์ และเฟซบุ๊ค ร้องขอไปยังรัฐบาลนายโอบาม่า ให้จำกัดโครงการสอดแนมข้อมูล และยังยกระดับการเข้ารหัสให้ผู้ใช้บริการของบริษัท เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากรัฐบาล
ด้าน นายเจย์ คาร์ทนีย์ โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐ ออกมาระบุถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงสหรัฐ หรือ NSA ที่ได้รับมอบหมาย ให้เป็นหัวหน้าทีมประเมินความเสียหาย จากการเปิดเผยข้อมูลลับ โดย นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน กล่าวถึงความคุ้มค่าในการหารือเรื่องนิรโทษกรรมแก่นายสโนว์เด้น ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น และประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ยังคงจุดยืนเดิมที่ว่าการขโมยเอกสารลับโดยนายสโนว์เดนนั้น เป็นความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ และจะต้องกลับมาเข้ารับการไต่สวนในชั้นศาลโดยเร็ว
เรื่องของ นายสโนว์เดน กลับมาอยู่ในกระแสความสนใจอีกครั้ง หลังจากที่เขาเขียนจดหมายเปิดผนึกไปยังประชาชนชาวบราซิล เสนอตัวจะช่วยเหลือการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับโครงการดักฟังของสหรัฐต่อบราซิล ตามเอกสารลับที่อยู่ในมือของเขา แต่ขณะเดียวกับก็มีถ้อนคำปรารภว่า การช่วยเหลืออาจไม่สะดวกนัก หากเขาไม่ได้อยู่ในบราซิล ทำให้ตอนนี้ เริ่มมี สว.บราซิล ออกมาแสดงความเห็นด้านบวก และกระตุ้นให้รัฐบาลพิจารณาในเรื่องนี้ แต่อ้างว่าเพื่อมนุษยธรรม ไม่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอของ
นายสโนวเดน
ปัจจุบัน นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ได้รับวิซ่าให้อยู่ในประเทศรัสเซียได้ 1 ปี และยังไม่มีประเทศใดเสนอให้ที่ลี้ภัยทางการเมืองแก่เขา ซึ่ง นายสโนว์เดน ได้ยื่นเรื่องไปหลายประเทศในอเมริกาใต้ พร้อมทั้งทะยอยเปิดเผยเอกสารลับเกี่ยวกับโครงการดักฟังของสหรัฐ ซึ่งก็รวมถึงการดักฟังโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของ นางดิลม่า รูสซอฟ ประธานาธิบดีบราซิล และการดักข้อมูลอินเทอร์เน็ตของบราซิล สร้างความไม่พอใจแก่รัฐบาลและชาวบราซิลอย่างมาก กระทั่งผู้นำบราซิลสั่งให้มีการวางสายไฟเบอร์ออฟติคเชื่อมตรงจากยุโรปมายังประเทศแถบอเมริกาใต้แทนการใช้โครงข่ายของสหรัฐเป็นศูนย์กลางอย่างที่ผ่านมา