ค้านยกเลิกกองทุนน้ำมัน

นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน ) กล่าวว่า หากรัฐบาลใหม่มีการยกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะส่งผลกระทบต่อการส่งเสริมและการพัฒนาพลังงานทดแทนของประเทศในอนาคต โดยเฉพาะน้ำมันแก๊สโซฮอลที่มีการใช้ทั้งประเทศถึงร้อยละ 65 ขณะที่มีการใช้เบนซินลดลงอยู่ที่ประมาณร้อยละ 35 เท่านั้น หากมีการยกเลิกกองทุนน้ำมันฯ จริง ต้องดึงมาตรการภาษีสรรพสามิตน้ำมันเข้ามาดูแลราคาแก๊สโซฮอล เพื่อให้มีส่วนต่างราคาเกิดขึ้น เพราะจะส่งผลให้ประชาชนหันกลับไปใช้เบนซินมากขึ้น เนื่องจากเมื่อยกเลิกกองทุนน้ำมันฯ จะทำให้เงินที่เก็บจากเบนซิน 95 หายไปลิตรละ 7.50 บาท, เบนซิน 91 หายไปลิตรละ 6.70 บาท, แก๊สโซฮอล 95 หายไปลิตรละ 2.40 บาท

 

ขณะที่แก๊สโซฮอล E20 จะปรับเพิ่มขึ้นลิตรละ 1.30 บาท และแก๊สโซฮอล E85 จะปรับเพิ่มขึ้นลิตรละ 13.50 บาท ทำให้ราคา E85 ปรับราคาขึ้นใกล้เคียงกับราคาเบนซิน เพราะแก๊สโซฮอล E20 และ E85 กองทุนน้ำมันฯ เข้าไปอุดหนุนราคาอยู่ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแผนพลังงานทดแทน ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องหาเม็ดเงินมารองรับราคาพลังงานทดแทน ด้วยการบริหารจัดการภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เพื่อให้การเดินหน้าแผนพลังงานทดแทนของประเทศต่อไปได้ รวมทั้ง ยังมีผลกระทบต่อบริษัทน้ำมันที่มีการลงทุนเดินหน้าพลังงานทดแทนไปแล้วอย่างเต็มกำลัง และค่ายรถยนต์ที่มีแผนการผลิตรถยนต์ที่ใช้ E85 ออกสู่ตลาดอีกจำนวนมาก

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ บางจากอยู่ระหว่างรอดูท่าทีรัฐบาลใหม่ว่าจะเดินหน้านโยบายพลังงานอย่างไร โดยมีการชะลอการขยายสถานีบริการน้ำมันในปีหน้าไว้ก่อน ทั้ง E85 ที่มีแผนขยายให้ได้ 600-700 แห่ง และ E20 ที่มีแผนขยายให้ได้ 50 แห่ง

 

ด้านนายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญพลังงาน กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยหากจะยกเลิกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะยังมีประโยชน์ในการบริหารจัดการเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานของประเทศ แต่รัฐบาลต้องใช้เงินกองทุนฯ ให้มีประสิทธิภาพ และเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น แต่หากรัฐบาลจะยกเลิกจริงๆ ต้องสะสางปัญหาหนี้สินที่เกิดจากการตรึงราคาน้ำมันดีเซลตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการตรึงราคาก๊าซ LPG และ NGV นอกจากนี้ต้องแก้ไขปัญหาราคา LPG, NGV, แก๊สโซฮอล E20 และ E 85 ที่จะปรับตัวสูงขึ้นหากยกเลิกกองทุนฯ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน

 

ส่วนนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นโยบายยกเลิกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะทำให้ราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซลลดลงทันที ขณะเดียวกันก็จะทำให้ราคาพลังงานที่มีการอุดหนุนอยู่ เช่น ราคาก๊าซ LPG และก๊าซ NGV ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นต้องติดตามว่ารัฐบาลจะนำเงินจากส่วนใดมาดูแล ส่วนภาษีน้ำมันนั้นตามหลักการแล้วก็จำเป็นต้องเก็บ เพราะสร้างรายได้จำนวนมาก เฉพาะภาษีน้ำมันดีเซลตัวเดียวปีหนึ่งก็เกือบ 100,000 ล้านบาท