นักสันติวิธีชี้ผลสอบกระจกสะท้อนสังคม

ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความรุนแรง ในคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) พบว่ามี บุคคล สังคม องค์กร และสถาบัน ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในปี 2553 โดยเฉพาะภาวะด้านสุขภาพจิต ส่วนผลสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) พบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมครั้งนั้นมีการละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น ทั้งผู้ชุมนุมฝ่ายนปช. และเจ้าหน้าที่รัฐ

 

นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นว่า ผลสอบของ กสม.บางส่วนที่ถูกเผยแพร่ออกมา มีลักษณะขาดความสมดุล อาจส่งผลให้เกิดความสงสัยและตีความออกไปได้ จึงสมเหตุที่ต้องสอบเพิ่มเติมและทำให้เกิดความรอบด้านมากกว่านี้ โดยเฉพาะความจำเป็นที่ต้องผนวกกับรายงานการตรวจสอบจากองค์กรอื่น เพื่อชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงมากขึ้น พร้อมย้ำว่า การตรวจสอบหรือการรายงานผลคือกระจกสะท้อนสังคมที่นำไปสู่การแก้ไขต่อไป

 

ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. ยอมรับในผลการสอบของ กสม. และการเยียวยาของ คอป. เพราะตามกลไกเดิมของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ นปช.ไม่เคยคาดหวังแต่อย่างใด

 

ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความรุนแรง ใน คอป. สรุปการช่วยเหลือเยียวยาด้านร่างกาย 23,048 ราย และด้านจิตใจ 4,537 ราย โดยส่วนหนึ่งพบว่า เป็นโรคซึมเศร้า, อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย, โรคเครียด และโรควิตกกังวล

 

ขณะที่ก่อนหน้านี้ได้มีผลสรุปของ กสม.ถูกเผยแพร่ออกมาบางส่วน โดยสาระสำคัญคือทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมและฝ่ายรัฐละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น ส่วนความรุนแรงเกิดขึ้นทั้งผู้ชุมนุมและเหตุจากรัฐปฏิบัติงานไร้ประสิทธิภาพ