ต่อต้านวัฒนธรรมกินเนื้อสุนัขในจีน
เมืองยูหลิน มณฑลกว่างสี ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งที่จัดเทศกาลกินเนื้อสุนัขเป็นประจำทุกปี แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ผิดกฏหมายในจีน แต่ก็นำมาซึ่งการต่อต้านวัฒนธรรมการกินนี้อย่างหนัก ไม่เว้นแม้แต่ชาวจีนที่รณรงค์กระแสต่อต้านในสื่อสังคมออนไลน์จำนวนไม่น้อย ซึ่งในแต่ละปีมีสุนัขราว 10,000 ตัวถูกนำมาปรุงเป็นอาหาร
แต่สำหรับปี 2558 ปฏิกิริยาต่อต้านลุกลามไปทั่วโลก ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม มีการทวิตข้อความติดแฮชแท็ก stopyulin2015 ไม่ต่ำกว่า 250,000 ทวิต ขณะที่ในอังกฤษ สหรัฐฯและออสเตรเลีย มีการจัดกิจกรรมเช่นกัน อย่างกลุ่ม ดูโอ ดูโอ ซึ่งเป็นกลุ่มพิทักษ์สัตว์ในสหรัฐฯที่เปิดให้ลงชื่อผ่าน เช้นจ์ ดอท โออาร์จี เพื่อต่อต้านการกินเนื้อสุนัข ซึ่งรวบรวมได้มากกว่า 200,000 รายชื่อ
นักเคลื่อนไหวได้ปลอมตัวไปยังเมืองยูหลิน พบว่า สุนัขที่ถูกส่งไปมีหลากหลายขนาดและสายพันธุ์ ซึ่งแม้เนื้อสุนัขจะถูกมองว่าเป็นอาหารเสริมสุขภาพ แต่ในความเป็นจริงแล้วสุนัขเหล่านี้ถูกส่งมาจากตลาดมืด ซึ่งมักจะมาพร้อมกับโรค นักเคลื่อนไหวกลุ่มนี้จึงพยายามทำกิจกรรมในตะวันตก เพื่อให้คนในเมืองยูหลินเกิดความตระหนักว่าวัฒนธรรมการกินเก่าแก่ของพวกเขานั้นไม่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก ซึ่งด้านหนึ่งทำให้คนในสื่อสังคมออนไลน์พากันนำเอาภาพตนเองและสุนัขออกมาเผยแพร่มากกว่า 300,000 ข้อความ
ในขณะนี้พบว่ามี 13 ประเทศทั่วโลกที่ยังบริโภคเนื้อสุนัข อันดับ 1 คือ จีน อันดับ 2 อินโดนีเซีย อันดับ 3 เม็กซิโก ตามมาด้วย ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, เกาหลี, สวิตเซอร์แลนด์, เวียดนาม, โพลีนีเซีย รวมถึงบริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ได้แก่ ไซบีเรีย อลาสกา ทางตอนเหนือของแคนาดาและกรีนแลนด์ โดยผลสำรวจในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาพบว่าในโลกนี้มีสุนัขประมาณ 500 ล้านตัว แต่ถูกจับมาฆ่ากินประมาณ 16 ล้านตัวต่อปี