การแข่งขันฟุตบอลโคปา อเมริกา รอบรองชนะเลิศที่สนามเอสตาดิโอ เดอ ลาพลาต้า อุรุกวัย พบกับ เปรู ทั้ง 2 ทีมต้องการผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยอุรุกวัยผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศครั้งหลังสุดคือปี 1999 แต่แพ้ปารากวัยได้แค่รองแชมป์ ส่วนเปรูเข้าถึงรอบชิงหลังสุดตั้งแต่ปี 1975
นัดนี้ อุรุกวัย ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 ในครึ่งหลัง จากผลงานของ หลุยส์ ซัวเรส นาทีที่ 53 อีก 5 นาทีถัดมา ซัวเรส ทำประตูที่ 2 ของตัวเองให้ อุรุกวัย นำ 2-0 เปรูพยายามบุกหวังทำประตูคืน แต่ต้องมาเสียเปรียบตัวผู้เล่น เมื่อ ฮวน มานูเอล วาร์กาส โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ในนาทีที่ 69
ช่วงเวลาที่เหลือ 10 คนของเปรู ไม่สามารถทำอะไร อุรุกวัย ได้ จบเกม อุรุกวัย ชนะ เปรู 2-0 ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นทีมแรก ส่วนเกมรอบรองชนะเลิศอีก 1 คู่จะแข่งเช้าวันพรุ่งนี้ ปารากวัย พบ เวเนซุเอล่า
ส่วนการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องทีมชาตินัดที่ยูเออี ชนะ เลบานอน 6-2 และประตูปิดท้ายมาจากการยิงจุดโทษแบบตอกลูกส้นของ อวาน่า ดิยาฟ ซึ่งถือเป็นการไม่เคารพคู่แข่ง และทำให้ผู้เล่นฝ่ายเลบานอนไม่พอใจนั้น เอสมาเอล ราเชด ผู้จัดการทีมชาติยูเออี ให้สัมภาษณ์ผ่านเดอะ เนชั่น หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เคารพคู่แข่ง และจะมีบทลงโทษกับ ดิยาฟ ต่อไปไม่ว่าจะเป็นการแบน หรือปรับเงิน
โดยเกมดังกล่าวหลังจากที่ดิยาฟ ยิงจุดโทษเข้าไป ซเร็คโก้ คาตาเน็ก โค้ชทีมชาติยูเออีได้ตัดสินใจเปลี่ยนตัว ดิยาฟ ออกจากสนามทันที