เวลา 09.30 น. วันนี้ (17 ก.พ.2559) ตุลาการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีรับจำนำข้าวตามนัดหมายสืบพยานฝ่ายโจทก์นัดที่ 2 รวม 4 ปาก จากทั้งหมดที่อัยการสูงสุดยื่นขอเบิกความไว้ 14 ปาก โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เดินทางมารับฟังการพิจารณาคดีตามที่ศาลสั่งให้มาเข้าฟังทุกนัด
น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้ารับฟังการไต่สวนพยานว่าคาดหวังว่าการดำเนินการพิจารณาในทุกขั้นตอนจะยึดข้อกฎหมายเป็นหลัก และทีมทนายได้เตรียมความพร้อมทั้งข้อมูลและหลักฐานมาเต็มที่ พร้อมกับปฏิเสธรายงานที่ว่าตนได้จ้างทนายต่างชาติเข้ามารับผิดชอบคดี เนื่องจากเชื่อมั่นทีมทนายเดิมในการทำหน้าที่ต่อไป เพราะคดีนี้ต้องใช้ผู้ที่มีความรู้ความชำนาญ
"ยิ่งลักษณ์" ยืนยันใช้ทีมทนายเดิมต่อสู้คดีจำนำข้าว http://news.thaipbs.or.th/content/250225
Posted by Thai PBS News on Tuesday, 16 February 2016
คดีนี้ ศาลเบิกความนัดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2559 สำหรับการไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์นัดที่ 2 จำนวน 4 ปาก วันนี้ (17 ก.พ.) ประกอบด้วย น.ส.สุภา ปิยะจิตติ, น.ส.แน่งน้อย เจริญทวีทรัพย์ ซึ่งจะเบิกความในประเด็นทางบัญชี, น.ส.ศิรสา กันต์พิทยา จะเบิกความเรื่องหนี้สาธารณะ และนายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย จะเบิกความประเด็นการเบิกจ่ายเงินให้ชาวนาว่ามีจำนวนมากน้อยเท่าใด
การเบิกความนัดที่ 2 นี้ น.ส.สุภา ในฐานะอดีตประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวน่าจะถูกจับตามองมากที่สุด เพราะอาจจะให้ข้อมูลที่มีน้ำหนักต่อการพิจารณาคดี มีรายงานว่าพยานปากนี้เตรียมอ้างตัวเลขการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2555 ที่เคยระบุว่ามีข้าวในโครงการรับจำนำหายไป 1 ล้านตัน นอกจากนี้ น.ส.สุภายังเคยรายงานด้วยว่า การปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว 2 ปี 3 รอบฤดูกาลผลิตในปี 54/55 และ 55/56 นั้นมีผลขาดทุนเฉลี่ยแต่ละปีการผลิตประมาณ 2 แสนล้านบาท เมื่อรวม 2 ฤดูกาล 3 รอบ ตัวเลขขาดทุน ราว 4 แสนล้านบาท และขณะนั้นได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวแล้ว
พยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความ คือ น.ส.แน่งน้อย เจริญทวีทรัพย์ นักวิชาชีพการตรวจสอบบัญชี และหนึ่งในคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว รอบบัญชีวันที่ 22 พ.ค.2557 และ 30 ก.ย.2557 ที่ได้รับการแต่งตั้งตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ทนายความจำเลยได้ซักค้านในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชีรวมไปถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดย น.ส.แน่งน้อย ได้ชี้แจงขอบเขตการทำงานของคณะอนุกรรมการชุดนี้ ที่เน้นเฉพาะใน 2 รอบบัญชีนี้เท่านั้น ไม่รวมข้อมูลบัญชีก่อนหน้านี้ และชี้ว่าโครงการรับจำนำข้าวมีการทำบัญชีที่กระจัดกระจายจึงทำให้ต้องเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชี ตามคำสั่งของ คสช.
การสืบพยานฝ่ายโจทก์วันนี้มีขึ้นหลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีมติรับฟ้องคดีรับจำนำข้าวที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยข้อหากระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ ทั้งตามกฎหมายอาญาและกฎหมายป.ป.ช. กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต ในโครงการรับจำนำข้าว ศาลกำหนดไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์ 5 นัด นัดนี้เป็นครั้งที่ 2 ยังเหลืออีก 3 นัด ก่อนจะเข้าสู่การไต่สวนพยานฝ่ายจำเลย ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ารับฟังการพิจารณาคดีทุกนัด