วันนี้ (18 ก.พ.2559) ประชาชนในกรุงคาราคัส ของเวเนซูเอลา ทยอยนำพาหนะของตัวเองไปเติมน้ำมันก่อนที่ราคาจะปรับขึ้นในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับราคาขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี โดยเป็นราคาที่เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 6,000 โดยน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมจากเดิมอยู่ที่ลิตรละประมาณ 36 สตางค์ปรับเพิ่มขึ้นเป็นลิตรละประมาณ 34.20 บาท
การปรับราคาน้ำมันดังกล่าว ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าอาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การประท้วงครั้งใหญ่ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2532 ซึ่งนำไปสู่เหตุจลาจลในที่สุด เวเนซูเอลาเป็นประเทศที่พึ่งพิงรายได้จากการส่งออกน้ำมันเป็นหลักแต่เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดต่ำเป็นประวัติการณ์ ช่วงกลางปี 2557 จนถึงล่าสุด ทำให้รัฐบาลเวเนซูเอลาตัดสินใจระงับการผลิตน้ำมัน เพื่อช่วยทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกกระเตื้องขึ้น
ด้านนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซูเอล่า ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ ยืนยันว่า การปรับขึ้นราคาน้ำมันและการลดค่าเงินโบลิวาร์ เป็นสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการ เพื่อปกป้องประชาชนและป้องกันเศรษฐกิจไม่ให้ล่มสลายลง โดยรัฐบาลงกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเป็น 2 รูปแบบ คือ แบบแรกเป็นอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการที่กำหนดเอาไว้สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารและยาโดย 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ แลกได้ 10 โบลิวาร์ ซึ่งอ่อนค่าลงร้อยละ 37 จากเดิมที่แลกได้เพียง 6 จุด 3 โบลิวาร์ ส่วนรูปแบบที่ 2 เป็นอัตราลอยตัวแบบตลาดเสรี ซึ่งราคาในท้องตลาดขณะนี้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ แลกได้ 200 โบลิวาร์ ขณะที่ในตลาดมืดจะแลกได้มากถึง 1,000 โบลิวาร์