วันนี้ (19 ก.พ.2559) นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงคดีนำเข้ารถหรูของสมเด็จช่วงว่า ขอดูรายละเอียดผลสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดเข้าไปเกี่ยวข้องในการร่วมนำเข้าชิ้นส่วนรถจดประกอบของสมเด็จช่วงบ้าง จึงนำไปสู่ขั้นตอนการตั้งกรรมการสอบสวนความผิดต่อไป และจะไม่มีการปกป้องคนผิดแน่นอน เพราะเป็นนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐบาลที่ต้องปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น
ขณะที่นายประภาส คงเอียด รองปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติสรรพสามิตกำหนดขั้นตอนชัดเจน กรณีหากดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาคดีหลบเลี่ยงภาษี จะสามารถประเมินมูลค่าได้ก็ต่อเมื่อคดีถึงสิ้นสุดก่อน
นายสมชาย พูนสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า พร้อมให้ความร่วมมือดีเอสไอในการตรวจสอบคดีดังกล่าว และจะเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ แต่ขณะนี้รับทราบจากข่าวสารที่สื่อมวลชนนำเสนอ จึงจำเป็นต้องรอข้อมูลจากดีเอสไอ สำหรับอัตราภาษีชิ้นส่วนรถนำเข้าจะต้องถูกเนียกเก็บในอัตราร้อยละ 40 ไม่รวมค่าปรับต่างๆ
นอกจากนี้ ในการประชุมมอบนโยบายกรมสรรพสามิต ปลัดกระทรวงการคลังสั่งให้กรมสรรพสามิตรายงานกลยุทธ์การเพิ่มรายได้จัดเก็บจากปีละ 490,000 ล้านบาท เป็น 800,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 5-10 ปีข้างหน้า โดยอาจเก็บภาษีรายการใหม่ในกลุ่มที่กระทบสุขภาพ สิ่งแวดล้อม พลังงาน และสังคมก่อนรายงานอีกครั้งใน 2 เดือนข้างหน้า