วันนี้ (4 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า แหล่งท่องเที่ยวบริเวณเขาหลัก ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นหนึ่งในพื้นที่กำลังเผชิญปัญหาน้ำเสีย ที่มีสาเหตุหลักมาจากร้านค้าและโรงแรมในพื้นที่กว่าร้อยละ 80 ไม่มีบ่อบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงแหล่งน้ำโดยตรง
ขณะที่ น้ำเสียปริมาณมากที่ไหลลงทะเลที่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ ล่าสุดนายกอบต.อ่าวนาง ต้องออกมาเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานประกอบการร้านค้า โรงแรม บนเกาะพีพี ปล่อยน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัดให้ไหลลงสู่ทะเลหน้าชายหาดโล๊ะดาลัม สร้างความกังวลให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากน้ำดังกล่าวไหลมาผสมกับน้ำทะเล จากคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งตลอดเวลา บริเวณใกล้เคียงกับที่นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ และนอนพักผ่อนตามชายหาด ซึ่งน้ำเสียส่วนใหญ่ถูกปล่อยทิ้งลงท่อระบายน้ำสาธารณะ ก่อนไหลลงทะเลโดยไม่ผ่านการบำบัด
นายพันคำ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เปิดเผยว่า มีน้ำที่ไม่ผ่านการบำบัดจากสถานประกอบการ ที่พักและร้านค้า ลงทะเล วันละประมาณ 1,800 ลูกบาศก์เมตร ขณะที่โรงบำบัดน้ำเสีย ที่ประเทศเดนมาร์กสร้างให้ หลังเหตุการณ์สึนามิ ปี 2548 ปัจจุบัน บำบัดได้เพียงวันละ 300 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
ที่ผ่านมาอบต.อ่าวนาง ได้เสนอไปยังผู้เกี่ยวข้องให้มาแก้ไขปัญหา แต่ก็ไม่ได้รับการสนับสนุน จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งเข้ามาดำเนินการ
ด้านนายสวัสดิ์ ตันเก่ง นายกเทศมนตรีตำบลคึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เข้าตรวจสอบ บ่อบำบัดน้ำเสีย และ บ่อดักไขมัน ของร้านค้า หอพัก และโรงแรมต่างๆ ก่อนปล่อยลงท่อระบายน้ำ หลังพบว่า มีน้ำเสียในคลองสาธารณะย่านเขาหลักเซ็นเตอร์ และชาวบ้านร้องเรียนว่า ร้านค้าและสถานที่พักบางแห่งในย่านนี้ ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะ ส่งกลิ่นเหม็น
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบการกว่าร้อยละ 80 ไม่มีบ่อบำบัดน้ำเสีย บ่อกักไขมัน และบ่อตะกอน ทั้งยังปล่อยน้ำเสียลงท่อระบายน้ำโดยตรงเบื้องต้นเทศบาลเตรียมบังคับใช้กฎหมายห้ามทิ้งขยะ น้ำเน่าเสีย ลงท่อระบายน้ำ และให้เวลาผู้ประกอบการ 14 วัน ในการจัดทำบ่อบำบัด บ่อกักไขมัน บ่อตะกอน และส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี