วันนี้ (7 มี.ค.2559) พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ ประธานคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ได้ชิญตัวแทนสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 3 มาสอบถามกรณีแนวทางดำเนินการหลัง ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกร โดยในการประชุมวันนี้มีนางนิมะ ราซิดี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เป็นตัวแทนช่อง
พล.พีระพงษ์ ระบุว่า คณะอนุกรรมการเห็นว่าการที่ช่อง 3 ปล่อยให้นายสรยุทธ ออกหน้าจอทำหน้าที่ดำเนินรายการเรื่องเล่าเช้านี้ต่อหลังศาลมีคำพิพากษาจำคุกนั้นแม้จะไม่ผิดกฎหมายแต่ก็เป็นเรื่องผิดจริยธรรม เช่นเดียวกับกรณีที่ข้าราชการตำรวจกระทำผิดในด้านกฎหมายแม้ยังไม่ตัดสินถึงที่สุด แต่ด้านจริยธรรมก็ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ซึ่งต้องพิจารณาตัวเอง
"ช่อง 3 ถือเป็นสื่อใหญ่และมีอิทธิพลทางความคิดต่อผู้ชมจำนวนมาก หากทำอะไรก็ต้องคำนึงถึงหลักจริยธรรม เนื่องจากการทำหน้าที่ด้านสื่อจริยธรรมมีความสำคัญกว่ากฎหมาย และจะเห็นว่าในช่วง 2 วันแรกหลังมีคำพิพากษาช่อง 3 ให้เหตุผลว่าต้องการดูแลเหมือนคนในครอบครัวและเพิ่งจะมายุติทางหน้าจอหลังจากผ่านไปแล้ว 2 วัน"
พล.ท.พีระพงษ์ ระบุว่า สรุปเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาจริยธรรมซึ่ง กสทช.ต้องร่วมกับสภาวิชาชีพกำหนดแนวทางจริยธรรมเพื่อดูแลเมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ส่วนกรณีนายสรยุทธอาจต้องระงับการทำหน้าที่ดำเนินรายการในฐานะพิธีกรไปจนกว่าจะมีคำพิพากษาศาลฎีกา หากศาลฎีกาสรุปว่าไม่ผิดจึงสามารถกลับมาจัดรายการต่อได้แต่หากศาลฎีกาตัดสินว่านายสรยุทธมีความผิด ก็คงไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ กรณีที่นายสรยุทธจะอยู่เบื้องหลังเพื่อทำรายการของช่อง 3 หรือรายการที่ผลิตโดย บ.ไร่ส้ม คณะอนุกรรมการฯ ไม่ได้พิจารณาประเด็นดังกล่าวเนื่องจากพิจารณาในประเด็นจริยธรรมในการดำเนินรายการทางหน้าจอโทรทัศน์เท่านั้น ซึ่งช่อง 3 ในฐานะผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบด้านจริยธรรมด้วย