วันนี้ (15 มี.ค.2559) ผู้เสียหายรายหนึ่งใน จ.อุตรดิตถ์ ร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อมวลชนว่าถูกกลุ่มปล่อยเงินกู้นอกระบบข่มขู่หลังจากทำสัญญาเงินกู้ พร้อมเรียกเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบรายนี้ต้องนำเงินใส่ในถังน้ำทิ้งไว้หน้าบ้านเพื่อให้กลุ่มเงินกู้นอกระบบขับรถจักรยานยนต์มาเก็บเงินเป็นประจำทุกวัน แต่เมื่อจ่ายหนี้แล้ว กลับไม่ยอมลดเงินต้นให้ หากวันใดจ่ายไม่ครบก็จะข่มขู่บังคับให้ไปกู้เงินมาเพิ่ม ล่าสุด นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้สั่งเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลกลุ่มเงินกู้นอกระบบตามที่ประชาชนร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม เพื่อเสนอไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากการตรวจสอบพบว่าผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มเงินกู้นอกระบบในจังหวัดเป็นข้าราชการระดับสูง 2 คน จึงกำชับให้ฝ่ายปกครองและตำรวจตรวจสอบ หลังทราบว่าคนกลุ่มนี้เข้าไปข่มขู่และกดดันชาวบ้าน
ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และ อส.เข้าตรวจค้นบ้านบุคคล 3 หลัง ใน ต.นาแวง อ.เขมราฐ ซึ่งทั้งหมดมีรายชื่อในกลุ่มผู้มีอิทธิพลค้ายาเสพติด และลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษีตามแนวชายแดน หนึ่งในนั้นคือ บ้านของ น.ส.ทิวานันท์ จันปุ่ม จากการตรวจค้นพบกระสุนปืนเอ็ม 16 รวม 25 นัด ปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.1 ปลอก ซองใส่กระสุนปืน HK 2 ซอง และโพยหวยใต้ดินจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวน น.ส.ทิวานันท์ อ้างว่ากระสุนและซองกระสุนปืนเป็นของพ่อซึ่งเป็นอดีตตำรวจ ที่ผ่านมาได้คืนปืนไปแล้ว ส่วนโพยหวยเป็นของแฟน ตำรวจจึงดำเนินคดีเล่นการพนันสลากกินรวบโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนการปราบปราบผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ภาคอีสาน พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งเตรียมพร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษเพื่อกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลใน 20 จังหวัด ขณะนี้ได้นำรายชื่อบุคคลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียด หากพบว่าเป็นผู้มีอิทธิพลจริงก็จะเร่งปราบปราม ส่วนเรื่องร้องเรียนส่วนใหญ่ในภาคอีสานจะเป็นการข่มขู่ทวงหนี้นอกระบบและเรียกรับผลประโยชน์