วันนี้ (17 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพ บริษัท เมก้า แพลนเน็ต จำกัด เข้าให้ข้อมูลกับสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานฯ กรณีระบบป้องกันอัคคีภัย อาคารเอสซีบีปาร์ค ธนาคารไทยพานิชย์ขัดข้อง โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
นายเนทิษฐ์ ประเสริฐวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 เปิดเผยว่า ตัวแทนบริษัทฯ ยืนยันว่า ทีมวิศวะกรของบริษัทฯ ได้วางแผนการปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัยในทุกขั้นตอน ทั้งการแจ้งให้ลูกจ้างทราบถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการทำงาน และแจกคู่มือการปฏิบัติงานให้ลูกจ้างทุกคนก่อนที่จะทำงาน รวมถึงอบรมความปลอดภัยในการทำงานแก่ลูกจ้าง แต่ก็ยอมรับว่าในวันเกิดเหตุ ได้ส่งคนงานชุดใหม่เข้าไปทำงานเพิ่ม 9 คน ซึ่งคนงานชุดนี้ไม่ได้ผ่านการอบรม หรือทราบถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับการทำงาน
ผอ.สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานฯ กล่าวว่า ข้อมูลนี้สอดคล้องกับข้อมูลของผู้บาดเจ็บ ที่ระบุว่า ได้ยินสัญญาณแจ้งเตือน แต่ขณะนั้นเนื่องจากไม่รู้ว่าเสียงนั้นคือเสียงการแจ้งเตือน ว่าระบบป้องกันอัคคีภัยจะทำงาน จึงยังทำงานกันต่อในพื้นที่ ซึ่งชัดเจนว่าผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน
ดังนั้นบริษัทเมก้า แพลนเน็ต จำกัด จึงอาจเข้าข่ายความผิดมาตรา 14 กรณีไม่แจ้งให้ลูกจ้างทราบถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการทำงาน และแจกคู่มือการปฏิบัติงานให้ลูกจ้างทุกคนก่อนที่จะทำงาน ตามพ.ร.บ.ส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน ปี2554
ทั้งนี้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานฯ ต้องรอเอกสารแผนการปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัย และข้อมูลทะเบียนแรงงาน ที่บริษัทเมก้า แพลนเน็ต จำกัดจะส่งให้ในวันที่ 22 มี.ค.นี้ เมื่อรวบรวมข้อเท็จจริงครบถ้วน จะสรุปและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ส่วนตัวแทนเจ้าของสถานที่ คือธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทรับงานต่อ คือบริษัทโอจีเอ ซินคอน และ บริษัท เอบิตมัลติซิสเต็ม จำกัด ทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 จะเชิญเข้าให้ข้อมูลในสัปดาห์หน้า