"นักเทนนิสหญิงโชคดีมากเพราะพวกเธอได้อานิสงส์จากความสำเร็จของการแข่งขันเทนนิสชาย...ถ้าผมเป็นนักเทนนิสหญิง ผมจะคุกเข่าขอบคุณพระเจ้าทุกคืนที่ส่งโรเจอร์ เฟเดอเรอร์และราฟาเอล นาดาลมาเกิด เพราะพวกเขาเป็นผู้อุ้มชูกีฬาเทนนิสอย่างแท้จริง" มัวร์ วัย 69 กล่าวในการแถลงข่าวระหว่างการแข่งขันเทนนิส BNP Paribas Open ที่เมืองอินเดียน เวลส์ สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2559
คำพูดของเขาถูกวิจารณ์อย่างหนักจากผู้คนในวงการเทนนิส รวมทั้งนักเทนนิสหญิงชื่อดังอย่างเซเรนา วิลเลียมส์ที่บอกว่าความเห็นดังกล่าวเป็นการดูหมิ่นนักเทนนิสหญิง และเป็นความเห็นที่ "ผิดพลาดและไม่ถูกต้องอย่างที่สุด" ขณะที่บิลลี คิง ผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมนักเทนนิสหญิงอาชีพทวีตข้อความว่าความเห็นของมัวร์นั้น "น่าผิดหวังและไม่ถูกต้องในหลายประเด็น ความจริงก็คือนักเทนนิสทุกคน โดยเฉพาะนักเทนนิสแถวหน้า มีส่วนในความสำเร็จของเรา"
ต่อมามัวร์ได้ออกมาขอโทษที่พูดออกไปเช่นนั้น แต่ดูเหมือนว่าคำขอโทษจะไม่เพียงพอ เพราะเสียงประณามยังตามมาไม่หยุดหย่อน
มาร์ตินา นาฟราติโลวา นักเทนนิสระดับตำนานถึงกับเรียกร้องให้นักเทนนิสหญิงบอยคอตต์การแข่งขันที่อินเดียน เวลส์ถ้าหากมัวร์ยังเป็นผู้บริหารอยู่
ล่าสุดวันนี้ (22 มี.ค.2559) เขาได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้วอันเนื่องมาจากการให้ความเห็นเชิงเหยียดเพศดังกล่าว
คำพูดของมัวร์ยิ่งสร้างความร้าวฉานในวงการเทนนิสมากขึ้นเมื่อ โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมืออันดับ 1 ชาวเซอร์เบียออกมาให้ความเห็นตามน้ำว่า นักเทนนิสชายควรจะได้เงินรางวัลมากกว่านักเทนนิสหญิงเพราะมีคนดูการแข่งขันของนักเทนนิสชายมากกว่า
"นักเทนนิสหญิงได้เงินรางวัลที่สมน้ำสมเนื้อดีแล้ว แต่สำหรับนักเทนนิสชาย เราควรจะเรียกร้องให้ตั้งเงินรางวัลที่สูงขึ้น" ยอโควิชกล่าว
นับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา นักเทนนิสหญิงและชายได้เงินรางวัลเท่ากันในการแข่งขันรายการเมเจอร์ทั้ง 4 รายการ คือ ออสเตรเลียน โอเพน, ยูเอส โอเพน, เฟรนช์ โอเพน และวิมเบิลดัน นอกจากนี้รายการมาสเตอร์บางรายการก็ให้เงินรางวัลเท่ากัน เช่น การแข่งขันที่ อินเดียนเวลส์ และไมอามี