ผู้สื่อข่าวรายงานว่างบประมาณ 30,000 ล้านบาทที่นำมาใช้ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้ เป็นเงินที่กรมบัญชีกลางประหยัดงบประมาณรายจ่ายปี 2559 ได้จากการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์และการประมูลด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-market
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะมีการนำเสนอในที่ประชุม ครม.พรุ่งนี้ ประกอบด้วย
- การเพิ่มเงินค่าครองชีพกลุ่มราชการ คนละ 1,000 บาท โดยกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินเข้าบัญชีเพียงครั้งเดียว ผู้มีสิทธิ์ ได้แก่ ข้าราชการ ซี 7 ลงไป ซึ่งทั่วประเทศมีข้าราชการที่เข้าข่ายรับสิทธิ์ 1,018,000 คน ลูกจ้างประจำ 126,000 คน พนักงานราชการ 122,000 คน ลูกจ้างชั่วคราวอีกกว่า 300,000 คน ตั้งเป้าหมายจ่ายเงินให้ภายในเดือนเมษายนนี้
- กระทรวงการคลังแจกเงินช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้นน้อยคนละ 1,000 บาท ผู้มีสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือ คือ ผู้ที่มีรายได้อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน คือรายได้ไม่เกิน 300 บาทต่อวัน หรือไม่เกิน 9,000 บาท/เดือน โดยกรมบัญชีกลางจะเปิดรับลงทะเบียนคนจนทั่วประเทศผ่านคลังจังหวัดและสาขาของธนาคารเฉพาะกิจ เช่น ธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส.คาดว่าจะมีคนมาลงทะเบียนประมาณ 17-18 ล้านคน แต่การจ่ายเงินอาจต้องใช้เวลาหลังจากนี้ 1-2 เดือน เพราะเจ้าหน้าที่ต้องเก็บข้อมูล สำหรับการจ่ายเงินจะใช้วิธีนำระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-payment มาใช้เพื่อให้จ่ายถึงมือ
- มาตรการกิน-เที่ยวช่วยชาติ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์รวมระยะเวลา 8 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-17 เม.ย.2559 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นลักษณะเดียวกับช็อปช่วยชาติ นำค่าใช้จ่าย เช่น ค่าอาหาร ค่าที่พักและค่าแพกเกจทัวร์สามารถนำมาหักค่าลดหย่อนภาษีได้จำนวนไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งผู้ได้รับประโยชน์คือ ร้านค้า ร้านอาหาร กลุ่มธุรกิจนำเที่ยว รวมถึงประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยว หากเทียบเคียงกับมาตรการ "ช็อปช่วยชาติ" ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา มาตการนี้อาจทำให้รัฐเสียรายได้ 4-5 พันล้านบาท
- เสนอต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยวในประเทศ 15,000 บาท
- อัดฉีดงบประมาณลงไปให้หมู่บ้าน 70,000 แห่ง เพื่อให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านนำไปใช้ในโครงการจ้างงาน ช่วยภัยแล้งและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก