ผู้โดยสารและลูกเรือเครื่องบินโดยสารแอร์บัส 320 สายการบินอียิปต์แอร์เที่ยวบินเอ็มเอส 181 (MS181) ที่ถูกสลัดอากาศจี้ไปลงที่สนามบินลาร์นาคา (Larnaca) ในประเทศไซปรัสเมื่อวานนี้ โผเข้ากอดญาติที่รอรับที่สนามบินกรุงไคโร หลังเหตุการณ์ยุติลงด้วยดี เมื่อสลัดอากาศยอมมอบตัวและถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ขณะที่ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดได้รับการอพยพออกจากเครื่องอย่างปลอดภัย ก่อนที่เครื่องบินจะนำผู้โดยสารและลูกเรือเดินทางถึงสนานบินกรุงไคโรในช่วงค่ำ
นายชารีฟ ฟาตี รัฐมนตรีกิจการการบินอียิปต์ กล่าวแสดงความดีใจที่ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัยและชื่นชมการคลี่คลายวิกฤตแบบมืออาชีพของลูกเรือบนเครื่อง
แม้ว่าเหตุการณ์จี้เครื่องบินอียิปต์แอร์เที่ยวบินในประเทศจะยุติลงด้วยดีหลังสลัดอากาศยอมมอบตัวโดยไม่มีการต่อสู้ขัดขืน ขณะที่ผู้โดยสารและลูกเรือ 70 คนปลอดภัยทั้งหมด แต่ก็มีคำถามตามมาถึงมาตรการความปลอดภัยของสนามบินในอียิปต์ เพราะเกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่อียิปต์เพิ่มการรักษาความปลอดภัยสนามบินทั่วประเทศ นับตั้งแต่เครื่องบินโดยสารสายบินเมโทรเจท (Metrojet) ของรัสเซียตกบนคาบสมุทรไซนาย หลังบินออกจากเมืองตากอากาศชาร์ม เอล ชีค เมื่อเดือนตุลาคม 2558 แล้ว ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง 224 คนเสียชีวิตทั้งหมด โดยกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอสอ้าง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังโดยให้สมาชิกลอบนำระเบิดขึ้นเครื่อง ชี้ให้เห็นช่องโหว่ในมาตรการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน
ขณะที่ทางการอียิปต์ ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความบกพร่องของมาตรการรักษาความปลอดภัยและชื่นชมลูกเรือบนเครื่องที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ด้านกระทรวงมหาดไทยอียิปต์ เผยแพร่ภาพชายที่ถูกระบุว่าเป็นสลัดอากาศที่ก่อเหตุจี้เครื่องบินโดยสารสายการบินอียิปต์แอร์ขณะผ่านจุดตรวจความปลอดภัยของสนามบินเมืองอเล็กซานเดรียก่อนขึ้นเครื่อง
ขณะที่ ทางการไซปรัส เปิดเผยว่า สลัดอากาศรายนี้ชื่อ นายเซอิฟ เอลดิน มุสตาฟา สัญชาติอียิปต์ ซึ่งมีสภาพจิตไม่ปกติและขณะก่อเหตุได้เรียกร้องขอพูดคุยกับอดีตภรรยาชาวไซปรัส ก่อนจะยื่นข้อเรียกร้องอื่นๆ รวมทั้งการขอลี้ภัยทางการเมืองและต้องการให้อียิปต์ปล่อยตัวนักโทษการเมืองหญิง ทางการไซปรัส ยืนยันอีกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การก่อการร้ายและเข็มขัดระเบิดที่นายมุสตาฟาใช้ข่มขู่นักบินให้นำเครื่องมาลงที่ไซปรัสเป็นเข็มขัดระเบิดปลอม