วันนี้ (31 มี.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อานุภาพของแรงระเบิดลูกที่ 2 ข้างกำแพงสุสาน หมู่ 3 ต.บางปู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ริมถนนสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ปัตตานี กระเด็นไปไกลทันทีหลังสิ้นเสียงระเบิด ในความชุลมุนและความไม่ปลอดภัยนั้น เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหลายคนพยายามที่จะช่วยพยุงเพื่อนที่รอดชีวิตออกมากจากจุดเกิดเหตุและส่งโรงพยาบาล โดยเฉพาะ ส.ต.ต.สราวุธ จินดาวัน, ส.ต.ต.นนท์ ทองชาติ, ส.ต.ต.พนา โพธิ์ป๊อ, ส.ต.ต.นพพล ยางทอง และ ส.ต.อ.ปรภาส โสภาพ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างที่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าไปตรวจสอบระเบิดลูกแรก ซึ่งอยู่ในท่อเหล็กทรงกลมขนาด 4 นิ้ว แต่ยังไม่ระเบิด แต่ระหว่างการปฏิบัติงานก็เกิดระเบิดลูกที่ 2 ขึ้น
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง หลังจากเมื่อกลางดึกจนถึงเช้าวันนี้ เกิดเหตุระเบิดในเวลาไล่เลี่ยกันใน อ.ยะหริ่ง เกือบ 10 จุด ทำให้ตำรวจบาดเจ็บ 10 นาย และชาวบ้านเสียชีวิต 2 คน คือนายนิตย์ รอดเพชร และนายแวมาเฮง ควรเอกวิญ โดยเป้าหมายของการก่อเหตุส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ตู้เอทีเอ็มและสถานประกอบการทั้งร้านเสริมสวย ร้านอาหาร และร้านขายของชำของคนต่างความเชื่อ อย่างร้านขายของชำของนางสุปราณี เพ็ชรวิไล ที่ตั้งบนถนนหน้าวังร้านนี้ถูกระเบิด 2 ลูกซ้อน แต่โชคดีที่ไม่ผู้ได้รับบาดเจ็บ
นางสุปราณี กล่าวว่า เปิดร้านขายของชำมา 3 ชั่วอายุคนแล้ว และคุ้นเคยกับคนที่นี้เป็นอย่างดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเชื่อว่าเป็นเพียงฝีมือของคนที่ไม่หวังดี และยืนยันจะปักหลักทำธุรกิจต่อไป แต่ต้องระวังมากขึ้น
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุระเบิดเกือบ 10 จุด เบื้องต้น พบว่าระเบิดที่ผู้ก่อเหตุนำมาใช้เกือบทุกจุด เป็นระเบิดที่บรรจุในท่อเหล็กทรงกลมน้ำหนักประมาณ 8-10 กิโลกรัม แต่บางจุดพบว่าเป็นการบรรจุในแท่งปูนที่ใช้สำหรับใส่ฐานร่มผ้าใบในตลาดนัด แต่ไม่มีสะเก็ด โดยจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ จึงง่ายต่อการหลบเลี่ยงการถูกตรวจจับ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน และน่าจะเป็นแนวร่วมที่เคลื่อนไหวในพื้นที่
นายตายูดิน อุสมาน นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา กล่าวว่า เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง เพราะผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นคนที่คิดต่าง ต้องการแสดงศักยภาพว่าสามารถก่อเหตุได้ทุกพื้นที่ แต่อาจไม่หวังผลเสียหายมากนัก แต่ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐ
ขณะที่บรรยากาศใน อ.ยะหริ่ง ตลอดทั้งวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ในการเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยที่อาจซุกซ่อนในหลายจุด โดยเฉพาะในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุทั้งถนนรามโกมุท ถนนหน้าวัง และย่านสถานที่ราชการ แต่การเข้าตรวจสอบมีอุปสรรคอย่างมาก เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางทางเท้า ขณะที่สถานที่ราชการและสถานประกอบการหลายแห่งปิดกิจการ เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย ส่วนเจ้าหน้าที่ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง เพื่อขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ไม่ปลอดภัย