ภายหลังเกิดเหตุลอบวางระเบิด 9 จุด ใน อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อกลางดึกของวันที่ 30 มี.ค. ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 31 มี.ค. ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 1 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 10 คน
วันที่ 31 มี.ค.2559 นายตายูดิน อุสมาน นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นคนที่เห็นต่างจากรัฐ ต้องการแสดงศักยภาพว่าก่อเหตุได้ทุกพื้นที่และต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐที่พยายามผลักดันกระบวนการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มมาราปาตานี รวมทั้งกลุ่มอื่นๆ จึงได้ก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
จากการตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่าระเบิดที่ผู้ก่อเหตุนำมาใช้เกือบทุกจุดเป็นระเบิดที่บรรจุในท่อเหล็กทรงกลมน้ำหนักประมาณ 8-10 กิโลกรัม แต่บางจุดมีการบรรจุในแท่งปูนที่ใช้สำหรับใส่ฐานร่มผ้าใบในตลาดนัดแต่ไม่มีสะเก็ด โดยจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ จึงง่ายต่อการหลบเลี่ยงการถูกตรวจจับ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันและแนวร่วมที่เคลื่อนไหวในพื้นที่
ขณะที่บรรยากาศใน อ.ยะหริ่ง เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งในเส้นทางรอบนอกและเส้นทางเข้าเมืองเพื่อป้องกันเหตุรุนแรงซ้ำ โดยเฉพาะในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ เช่น ถ.รามโกมุท ถ.หน้าวัง และย่านสถานที่ราชการ ซึ่งบางจุดยังพบวัตถุต้องสงสัยที่รอการพิสูจน์
ส่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสงขลา สั่งยกระดับการรักษาความปลอดภัยเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ทันที เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เช่นเดียวกับในพื้นที่ จ.นราธิวาส มีมาตรการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายในการตั้งด่านตรวจและจุุดสกัดบนถนนสายสำคัญ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. จนถึงช่วงสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
ด้าน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามผู้ก่อเหตุและตรวจสอบว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน หรือมีความเชื่อมโยงหรือไม่กับเหตุการณ์ระเบิดและยิงตำรวจภูธรจะแนะ จ.นราธิวาส เสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 6 นาย