สทน.เชื่อมาตรการลดหย่อนภาษีกินเที่ยวช่วยชาติไม่ช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ

วันนี้ (9 เม.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่กำลังทยอยเดินทางออกต่างจังหวัด เพื่อท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ สามารถใช้สิทธิ์ขอใบกำกับภาษี เพื่อนำมาขอลดหย่อนภาษี จากค่ารับประทานอาหารนอกบ้าน แพกเกจทัวร์ และค่าที่พัก ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 17 เม.ย.นี้ แต่มีคนไทยอีกส่วนที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ในเทศกาลสงกรานต์เช่นกัน

นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ เปิดเผยว่า มาตรการกินเที่ยวช่วยชาติไม่ได้ช่วยชะลอการเดินทางของคนกลุ่มนี้ และไม่แรงพอจะกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ แต่เป็นการสร้างผลทางจิตวิทยาให้เกิดการจับจ่ายมากกว่า และร้านอาหารขนาดใหญ่ตามห้างสรรพสินค้าก็เป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์มากกว่าร้านอาหารตามสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมเสนอให้ทบทวนมาตรการใหม่ เพราะการใช้มาตรการทางภาษีอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประเทศ

นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร นายกสมาคมโรงแรม กล่าวว่า ยอดการจองห้องพักโรงแรมต่างๆ ในเทศกาลสงกรานต์นี้อยู่ที่ร้อยละ 70-80 ซึ่งเป็นอัตราปกติ และไม่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการนี้ เพราะคณะรัฐมนตรีประกาศมาตรการก่อนเข้าเทศกาลเพียงประมาณ 10 วัน ซึ่งกระชั้นชิดไป สำหรับผู้ที่จะปรับแผนการเดินทาง หรือซื้อโปรแกรมการท่องเที่ยวเพิ่มเติมจากแผนการเดิม

ขณะที่นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การออกมาตรการช็อปช่วยชาติถึงกินเที่ยวช่วยชาติ จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ แต่จากการประเมินยอดจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เพิ่งปิดรับเอกสารทางอินเทอร์เน็ต เมื่อวานนี้ พบว่าการจัดเก็บรายได้ไม่ได้ลดลงเลย

อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวอีกว่า แม้ประชาชนบางส่วนที่ใช้บริการร้านอาหารเล็กๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวจะไม่ได้รับสิทธิ์หักลดหย่อนภาษี เพราะร้านค้าเหล่านี้อาจมีรายได้ไม่ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี ซึ่งไม่เข้าระบบภาษี แต่ในภาพรวม มาตรการนี้จะช่วยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 9,000 - 10,000 ล้านบาท

จากบทเรียนมาตรการช้อปช่วยชาติถึงกินเที่ยวช่วยชาติ แม้จะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อชาติ แต่ต้องไม่ลืมว่ามาตรการนี้เป็นมาตรการทางภาษี การลดหย่อนค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับฐานเงินได้สุทธิของแต่ละบุคคลด้วย