วันนี้ ( 15 เม.ย.2559 ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะ จัดการประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือทุกอย่างในภารกิจการกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน โดยรัฐบาลจะทุ่มเทความพยายามทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติซ้ำสองจากอาฟเตอร์ช็อคที่เกิดตามมา นายอาเบะ ยังแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่ หน่วยกู้ภัยญี่ปุ่นกว่า 1,300 นาย พร้อมด้วยทหาร 1,600 นายและตำรวจอีกเกือบ 2,000 นาย ระดมกำลังค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น โดยช่วยเด็กทารกหญิงวัย 8 เดือนออกมาได้ 1 คน
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.26 น.ตามเวลาท้องถิ่นตรงกับ 19.26 น.ค่ำวานนี้ (14 เม.ย.) ตามเวลาในประเทศไทย วัดความรุนแรงได้ 6.4 และเกิดลึกเพียง 10 กิโลเมตร จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากจังหวัดคุมาโมโตบนเกาะคิวชูไปทางตะวันออกประมาณ 11 กิโลเมตร แต่ไม่มีการประกาศเตือนภัยสึนามิ หลังเกิดแผ่นดินไหวไปแล้ว 40 นาที มีแผ่นดินไหวเกิดตามมาอีกวัดความรุนแรงได้ 5.7 และผ่านไปอีก 2 ชั่วโมงครึ่งก็เกิดตามอีกระลอกวัดความรุนแรงได้ 6.4 ขณะที่มีรายงานว่ามีอาฟเตอร์ช็อคเกิดตามมาอีกกว่า 100 ครั้ง เจ้าหน้าที่ต้องประกาศเตือนประชาชนว่าอาจมีอาฟเตอร์ช็อคเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีกหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่า
อย่างไรก็ตาม แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวทำให้อาคารบ้านเรือนพังถล่ม โดยเมืองมาชิกิ ซึ่งมีประชากรประมาณ 34,000 คน และอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นไหวดินเป็นพื้นที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก อาคารหลายหลังพังถล่มและเกิดไฟไหม้บ้านเรือน ขณะที่บ้านเรือน 16,000 หลังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ เนื่องจากระบบส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าได้รับความเสียหาย แม้แผ่นดินไหวจะสร้างความเสียหายแต่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 3 แห่งทางตอนใต้สุดของเกาะคิวชูและบนเกาะชิโกกุ ซึ่งอยู่ติดๆ กัน ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ขณะที่โรงงานของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งในพื้นที่แผ่นดินไหวไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า บริดจ์สโตนและโซนีต้องระงับการผลิตชั่วคราว
ทั้งนี้มีรายงานว่ารถไฟบนเกาะคิวชูต้องหยุดให้บริการหลังเกิดแผ่นดินไหวและมีรถไฟหัวกระสุนตกรางแต่เป็นขบวนรถเปล่าจึงไม่มีใครได้รับอันตราย ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 9 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบ 900 คน ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 44 คน คาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
ส่วนสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว แจ้งว่าไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบและขอให้คนไทยที่พำนักในญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวไทยใช้ความระมัดระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด กรณีขอความช่วยเหลือในจังหวัดคุมาโมโตะ ติดต่อกองการต่างประเทศ จังหวัดคุมาโมโตะ (81-96-333-2315)