หมอกควันปกคลุมท้องฟ้าเหนือตัวเมือง จ.เชียงใหม่ หลังมาตรการห้ามเผาสิ้นสุดเมื่อวันที่ 15 เม.ย.2559 ทำให้เกษตรกรหลายอำเภอเริ่มเผาเศษวัชพืชเพื่อเตรียมพื้นที่เกษตร ส่งผลให้เกิดหมอกควันจนทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นต่ำและค่าฝุ่นละอองในอากาศวัดได้ 187 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินมาตรฐาน
นายพรชัย จิตรนวเสถียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ ระบุว่า ปัญหาหมอกควันที่กลับมาอีกทำให้ยอดจองเที่ยวบินและที่พักในจังหวัดลดลงกว่าร้อยละ 10 จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหา เพราะในระยะยาวจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแน่นอน
ส่วนประชาชนและนักท่องเที่ยวใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต้องสวมใส่หน้ากากป้องกัน หลังหมอกควันปกคลุมในพื้นที่หนาแน่น โดยสาเหตุหลักยังมาจากการเผา ซึ่งทาง จ.เชียงราย ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดการเผา พร้อมประสานไปยังคณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา ในฝั่งเมียนมา ให้ร่วมงดการเผาด้วย
เช่นเดียวกับที่ จ.พะเยา ค่าฝุ่นละอองในอากาศเกินมาตรฐานติดต่อกันหลายวัน เริ่มกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยแพทย์เตือนให้งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากปิดจมูก อยู่ในบ้านปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิด
กรมควบคุมมลพิษรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในภาคเหนือ วันนี้ (19 เม.ย.2559) ยังมี 6 จังหวัดที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศเกินค่ามาตรฐานคือ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน และ จ.พะเยา สูงสุดอยู่ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย วัดได้ 316 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร