วันนี้ (2 พ.ค.2559) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้มีมติ 153 ต่อ 2 และ งดออกเสียง 6 เสียง เห็นชอบรายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เรื่อง การป้องกันและควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพด้านอาหารและโภชนาการ ในประเด็นการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกินเกณฑ์มาตรฐานสุขภาพ เพื่อส่งให้ ครม.พิจารณาดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญคือ เสนอจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล อาทิ น้ำอัดลม ชาเขียว กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง นมเปรี้ยว และนมถั่วเหลือง ซึ่งมีปริมาณน้ำตาลเกินมาตรฐานที่กำหนด
ทั้งนี้คณะกรรมาธิการฯ เสนอจัดเก็บภาษี 2 อัตรา ตามความเข้มข้นของน้ำตาล คือ
- ปริมาณน้ำตาล 6-10 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จัดเก็บภาษีในอัตราที่ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของราคาขายปลีก
- ปริมาณน้ำตาลมากกว่า 10 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จัดเก็บภาษีในอัตราที่ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของราคาขายปลีก
ข้อเสนอนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนลดการบริโภคเครื่องดื่มรสหวานลง เนื่องจากกสถิติพบว่า คนไทยบริโภคน้ำตาลมากเป็นอันดับ 9 ของโลก ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ รวมถึงสร้างภาระให้ประเทศเสียค่าใช้จ่ายจากโรคเหล่านี้จำนวนมาก
สปท.ระบุว่า เครื่องดื่มในตลาดเกือบทั้งหมด มีน้ำตาลมากกว่า 6 กรัมต่อมิลลิลิตร และการขึ้นภาษีจะช่วยเพิ่มรายได้เข้าประเทศมากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี รวมถึงเตรียมเสนอให้กระทรวงมหาดไทย ควบคุมการทำการตลาดแบบเสี่ยงโชคของเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเพื่อควบคุมการกระตุ้นการบริโภคที่มีน้ำตาลควบคู่ไปด้วย