ม.รังสิต แจ้งความสถาบันกวดวิชารับจ้างทุจริตสอบแพทย์-มั่นใจขยายผลได้ทั้งขบวนการ

วันนี้ (9 พ.ค.2559) ผศ.นเรฏฐ์ พันธราธร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยถึงกรณีการตรวจพบทุจริตสอบคัดเลือกเข้าวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต รอบที่ 2 จนนำไปสู่การประกาศยกเลิกการสอบที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 และ 8 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า มหาวิทยาลัยได้แจ้งความและลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ทั้งในส่วนของผู้สมัครสอบที่ทุจริตการสอบและในส่วนของสถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่งที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต

การสอบปากคำผู้ที่ร่วมกันทุจริตสอบครั้งนี้ เบื้องต้นพบว่าขบวนการนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มที่เข้ามาดูข้อสอบโดยใช้แว่นตาติดกล้อง ซึ่งสถาบันกวดวิชาว่าจ้างนักศึกษามหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง 2 คน ด้วยเงินคนละ 6,000 บาท ให้เข้ามาบันทึกภาพข้อสอบเพียงอย่างเดียวและไม่มีส่วนได้เสียกับการสอบและใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก่อนจะลุกออกจากห้องสอบ เพื่อนำภาพข้อสอบที่บันทึกไว้ส่งต่อให้กับทีมงานที่รออยู่ด้านนอก

จากนั้นไฟล์ภาพข้อสอบทั้งหมดจะถูกส่งให้กับทีมเฉลยข้อสอบ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนส่งคำตอบทั้งหมดมาที่นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ของนักเรียนผู้ว่าจ้างสอบซึ่งมีจำนวน 3 คน นักเรียนทั้ง 3 คนนี้ใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาที เพื่อใส่คำตอบลงในกระดาษคำถาม กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในเวลา 3 ชั่วโมงซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำหนดให้นักเรียนทำข้อสอบ

ผศ.นเรฏฐ์ กล่าวอีกว่า นักเรียนทั้ง 3 คนที่ว่าจ้างทุจริตสอบด้วยเงินคนละ 800,000 บาทนั้น พบว่าตั้งใจที่จะเรียนแพทย์ แต่ทางมหาวิทยาลัยได้ขึ้นบัญชีดำ ไว้แล้ว หลังจากนี้จะไม่สามารถเข้าสอบได้อีก และอาจมีผลต่อการพิจารณารับนักเรียนกลุ่มนี้เข้าเรียนในสถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ ด้วย ส่วนสถาบันกวดวิชานั้นทราบชื่อแล้ว ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสืบสวนซึ่งทางมหาวิทยาลัยมั่นใจว่าจะสามารถเชื่อมโยงไปสู่ขบวนการทุจริตสอบครั้งนี้ได้ทั้งหมด