จากกรณีมีกระแสข่าวว่าวันพรุ่งนี้ (10 พ.ค.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพิจารณาวาระการต่อใบอนุญาตประกอบโลหะกรรมเหมืองแร่ทองคำชาตรี ของ บริษัท อัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบกิจการในพื้นที่ จ.พิจิตร คาบเกี่ยวรอยต่อ จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิษณุโลก ซึ่งมีพื้นที่ประกอบกิจการกว่า 3,000 ไร่
วันนี้ (9 พ.ค. 2559) นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อก. กล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอเรื่องการพิจารณาเรื่องใบอนุญาตเหมืองแร่ ให้ ครม. พิจารณาจริง แต่ยังไม่แน่ใจว่า ครม.จะพิจารณาเลยหรือไม่ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้ ครม.ประกอบการพิจารณานั้น กระทรวงอุตสาหกรรมยังไม่ขอเปิดเผย และขอให้รอฟังผลจากที่ประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ (10 พ.ค.) เพื่อความชัดเจน
ด้าน นายชาติ หงษ์เทียมจันทร์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดที่ กพร.พิจารณาเพื่อเสนอกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งในส่วนของประเด็นรายละเอียดที่พิจารณาเพื่อเสนอให้ ครม.พิจารณา รวมถึงกระบวนการต่างๆ ที่เป็นไปตามขั้นตอนพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติ ต่อใบอนุญาตประกอบโลหะกรรมของเหมืองแร่ทองคำ รวมถึงการนัดประชุมในส่วนของ กพร.ในช่วงสัปดาห์นี้ โดยใบอนุญาตประกอบโลหะกรรมของเหมืองแร่ชาตรี จะสิ้นสุดในวันที่ 13 พ.ค. 2559
ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบวาระการประชุม ครม.แล้ว ไม่มีประเด็นเรื่องเหมืองแร่ทองคำเสนอเพื่อให้ ครม.ทราบหรือเพื่อพิจารณา แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีการเสนอเป็นวาระจรหรือไม่ ซึ่งต้องรอดูวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมานโยบายเกี่ยวกับเหมืองแร่ทองคำหรือโครงการที่มีข้อร้องเรียนจากประชาชน ทางรัฐบาลหรือ ครม.รับทราบโดยตลอด รวมถึงกรณีที่ประชาชนได้ยื่นหนังสือร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาลหลายครั้ง
“สำหรับการพิจารณานั้น ตามหลักการแล้วเมื่อเกิดปัญหาก็จะต้องไปตรวจสอบ มีการตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณา และต้องมีข้อมูลทางวิชาการมาประกอบการพิจารณาที่ต้องได้รับความน่าเชื่อถือ หากตรวจสอบแล้วโครงการไม่ส่งผลกระทบกับประชาชน ก็สามารถเดินหน้าได้เพื่อการพัฒนาและการลงทุน ซึ่งรัฐบาลต้องส่งเสริมนักลงทุนด้วย แต่หากเกิดผลกระทบ มีข้อร้องเรียน หรือส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ก็ต้องหยุดแล้วแก้ไขก่อน ทั้งนี้ เวลาประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็รับทราบถึงปัญหานี้ และนายกฯ เป็นคนซักถามรายละเอียดต่างๆ จนชัดเจนในตอนประชุม ถึงให้การเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ