วันนี้ (9 พ.ค. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงใหม่ ใช้เฮลิคอปเตอร์ตักน้ำจากอ่างเก็บน้ำหน้า อบต.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ เพื่อไปดับไฟในพื้นที่เขตอุทานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่เกิดคุขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนส่งกำลังภาคพื้นดินเข้าตรวจสอบซ้ำ หลังเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเหตุไฟป่าได้เมื่อคืนที่ผ่านมา
น.ส.หนึ่งหทัย ตันติพลับทอง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือขึ้นบินสำรวจในพื้นที่เกิดไฟป่าและหาแหล่งน้ำในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเตรียมรับมือไฟป่าที่อาจเกิดซ้ำ นอกจากนี้ยังเตรียมขึ้นบินทำฝนหลวงภายในสัปดาห์นี้เพื่อสร้างความชุ่มชื้นแก่ผืนป่า
ด้านนายดวงดี ยาวิชัย ชาวบ้านหนองฮ่อ จ.เชียงใหม่ อาศัยอยู่ห่างจากจุดเกิดไฟป่าไม่ถึง 3 กิโลเมตร ตั้งข้อสังเกตุต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าล่าช้า ทั้งที่เหตุเกิดตั้งแต่ช่วงเย็นแต่กลับไม่สามารถควบคุมได้ จนเป็นเหตุให้ไฟลุกลามเป็นบริเวณกว้าง
ขณะที่นายพงศ์ภาวัต ใหญ่วงศ์กร หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงใหม่ ชี้แจงว่าสาเหตุที่ต้องใช้เวลาดับไฟนานหลายชั่วโมง เนื่องจากในพื้นที่มีใบไม้ทับถมหนาและ มีลมแรงจนอาจเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่หากเข้าใกล้จุดเกิดไฟ จึงต้องใช้วิธีทำแนวกันไฟเพื่อควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด
“ไฟป่าครั้งนี้สร้างความเสียหายประมาณ 290 ไร่ ซึ่งยังคงจะเฝ้าระวังอีก 2-3วัน ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่ามาจากผู้ที่เข้าไปหาของป่า แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่สั่งการให้นายอำเภอเมืองเชียงใหม่เร่งตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง” นายพงศ์ภาวัต ระบุ