วันนี้ (12 พ.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากเหตุผลที่แถลงไม่เห็นด้วยกับแนวทางการสร้างความปรองดองตามข้อเสนอของสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ด้วยการตรากฎหมายรอกำหนดโทษ ที่มีเนื้อหาในลักษณะการชะลอโทษ และไม่เป็นไปตามหลักการของกระบวนการยุติธรรมแล้ว เครือข่ายญาติวีรชนพฤษภา ปี 2535 นำโดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ และนางพะเยาว์ อัคฮาค ยังเสนอให้ผลักดันการสร้างความปรองดองในบ้านเมือง แต่ชี้ว่าควรเป็นไปตามแนวทางของคณะกรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่มีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน ซึ่งมีแนวทางที่รอบด้าน มากกว่าการยึดตามแนวทางการเมือง พร้อมกันนั้น หยิบยก 6 แนวทางที่ควรยึด เพื่อเดินหน้าสร้างความปรองดอง คือความเข้าใจของสังคม, การแสวงหาข้อเท้จจริง, การอำนวยความยุติธรรมและการให้อภัย, การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ, การสร้างสภาวะที่เอื้อต่อการอยู่ร่วมกัน และการป้องกันแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
ก่อนหน้านี้ ผู้เสนอแนวทางการออกกฎหมายรอกำหนดโทษ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมืองของ สปท. ออกมายอมรับเสียงทักท้วงและคัดค้าน และระบุว่าพร้อมจะยุติ หากหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย แต่ย้ำในเจตนาที่เสนอ เพื่อแสวงหาความปรองดอง หลังสังคมไม่รับข้อเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม จึงเสนอให้ใช้การรับสารภาพต่อศาล แทนการสืบพยาน เพื่อให้คดีความและความขัดแย้งยุติลง โดยมีเป้าหมายสำคัญที่จะช่วยเหลือชาวบ้านหลายร้อยคนที่ถูกดำเนินคดี
ทั้งนี้ 1 ในเสียงค้านที่แสดงเจตจำนงชัดเจน คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงที่ออกมาชี้ว่าแนวคิดนี้จะสร้างความวุ่นวายมากกว่าการสร้างความปรองดอง