ล่าสุดขณะนี้มี 2 บริษัทที่รับเอกสารไป คือ เอไอเอส และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น แต่ล่าสุด บริษัท ทรูฯ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ว่าจะไม่เข้าร่วมประมูลครั้งใหม่นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) นายนพปฏล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ทำหนังสือแจ้งกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ทรูฯ ซึ่งได้ประชุมร่วมกันเมื่อวานนี้ มีมติไม่เข้าร่วมการประมูล 4G คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ รอบใหม่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 พ.ค.2559 โดยทาง กสทช. กำหนดให้ผู้สนใจยื่นเอกสารได้ในวันพรุ่งนี้เพียงวันเดียว
บริษัท ทรูฯ ให้เหตุผลการไม่เข้าร่วมประมูลครั้งนี้ว่า เนื่องจากมีคลื่นความถี่ครบถ้วนและเพียงพอที่จะให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว โดยมีทั้งคลื่นที่เป็นย่านความถี่สูงและย่านความถี่ต่ำครอบคลุม รวมทั้งมีปริมาณคลื่นความถี่รวมจำนวน 55 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งมีศักยภาพครอบคลุมทั้งคลื่นสัญญาณ 2G 3G และ 4G ครบถ้วนอยู่แล้ว
ผลจากการที่ บริษัททรูฯ ตัดสินใจไม่เข้าร่วมประมูล จะทำให้มี บริษัท เอไอเอส เพียงบริษัทเดียวที่เข้าประมูล 4G คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ในครั้งนี้ ซึ่งทาง กสทช.กำหนดราคาตั้งต้นไว้ที่ 75,654 ล้านบาท การเคาะราคาจะเกิดขึ้นครั้งเดียวเพื่อยืนยันราคาตั้งต้นที่ กสทช.กำหนด และถือว่าจบกระบวนการประมูล แต่ต้องติดตามว่าท้ายที่สุดแล้ว บริษัท เอไอเอส ซึ่งเหลืออยู่บริษัทเดียวจะเดินทางไปยื่นเอกสารเพื่อขอร่วมประมูลวันพรุ่งนี้หรือไม่
การจัดประมูล 4G รอบใหม่นี้จะเกิดขึ้นภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 16/2559 ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชน หัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ให้ กสทช.จัดประมูล 4G คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ในวันที่ 27 พ.ค.2559 โดยกำหนดราคาประมูลในรอบแรกไว้ที่ 75,654 ล้านบาท โดยระหว่างนี้ให้คุ้มครองผู้ใช้งานเดิมที่เป็นลูกค้าของ เอไอเอส สัญญาณ 2G คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่จะนำมาใช้ประมูลไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.2559 หรือจนกว่า กสทช.จะออกใบอนุญาตให้ผู้ชนะประมูลรายใหม่
ส่วนบริษัท ทรูฯ จะได้สิทธิ์จากคำสั่ง คสช. ขยายเวลาใช้คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่ชนะประมูลเมื่อเดือนธันวาคม 2558 จากระยะเวลาถือครอง 15 ปี ออกไปเป็น 15 ปี 3 เดือน ส่วนผู้ชนะประมูลคลื่น 900 รายใหม่ จะได้สิทธิ์ถือครอง 15 ปี โดยก่อนหน้านี้ กสทช.มั่นใจว่า หากมีผู้เข้าประมูลรายเดียว ก็จะไม่ทำให้รัฐขาดทุน เนื่องจากกำหนดราคาตั้งต้นไว้ในราคาที่บริษัท แจส โมบาย เคยชนะประมูล
ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (18 พ.ค.) สำหรับการเคาะราคาประมูล 4 จี คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ในวันที่ 27 พ.ค. 2559 หากมีบริษัทรายเดียวเข้าแข่งขันยื่นเอกสาร คาดว่ากระบวนการจะจบเร็วที่สุดภายใน 20 นาที โดย 15 นาทีแรก เป็นการเคาะยืนยันราคา ส่วน 5 นาทีสุดท้าย ทางระบบจะทำการประมวลผล จากนั้นคณะกรรมการธรรมาภิบาล ที่ กสทช.แต่งตั้งโดยมีคนนอกเป็นกรรมการ จะตรวจสอบกระบวนการ หากไม่พบปัญหาคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) จะประชุมเพื่อรับรองผู้ชนประมูล
“ตามกระบวนการแล้ว หากมีรายเดียวก็เคาะราคาจบใน 20 นาที แต่หากผู้เข้าร่วมประมูลอยากให้เงินแผ่นดินเพิ่มขึ้นจะเคาะราคาเพิ่มเองในแต่ละรอบก็ได้ ซึ่งเพิ่มขึ้นรอบละ 152 ล้านบาท เผื่อให้รัฐมีรายได้มากขึ้น ทั้งนี้ตามกระบวนการผู้ชนะประมูลต้องนำเงินมาจ่ายค่าชนะประมูล ภายใน 90 วัน แต่เป็นไปได้ที่ผู้ชนะจะจ่ายจะมาจ่ายเงินก่อนระยะเวลา 90 วัน “ เลขาธิการ กสทช. กล่าว