พล.ต.ต.สันต์กล่าวว่าในการสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้นั้น ตำรวจจะใช้วิธีตัดประเด็นออกไปทีละประเด็น เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่จะพบหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพราะหลักฐานมักจะถูกเผาไหม้จนหมด อย่างไรก็ตามในการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้หอพักนักเรียนหญิง ร.ร.พิทักษ์เกียรติวิทยา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 22 พ.ค.2559 เป็นเหตุให้มีนักเรียนหญิงเสียชีวิต 17 คนนั้น เจ้าหน้าที่พบขั้วหลอดไฟใน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ได้
"เมื่อขั้วหลอดไฟไม่แน่นจะทำให้กระแสไฟฟ้าเกิดการสะสมความร้อนที่ขั้วหลอดซึ่งเป็นพลาสติก ความร้อนนี้อาจทำให้พลาสติกละลายและหยดใส่กองเสื้อผ้าที่อยู่บริเวณที่เป็นต้นเพลิง ทำให้เกิดการลุกไหม้ได้" พล.ต.ต.สันต์กล่าว
ร.ร.พิทักษ์เกียรติวิทยา เป็นโรงเรียนที่เปิดโอกาสให้เด็กกลุ่มชาติพันธุ์ในภาคเหนือได้รับการศึกษา เนื่องจากการเดินทางรับส่งค่อนข้างลำบาก ผู้ปกครองจึงนิยมให้เด็กพักที่หอพักของโรงเรียน แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดโศกนาฏกรรมนี้ขึ้น
สุจินต์ อาหยี เป็นผู้หนึ่งที่ส่งลูก 2 คนไปเรียนที่โรงเรียนนี้ เกวลิน ลูกสาวคนโตเสียชีวิต ส่วนลูกสาวคนเล็กบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ในคืนวันที่ 22 พ.ค. โดยถูกไฟไหม้มากกว่า 60 เปอร์เซนต์ ขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว
"หวังว่าอยากให้ลูกมีการศึกษา มีความรู้ อยากให้เข้าสังคม ก็เลยส่งให้เขาไปเรียนที่โรงเรียนที่เวียงป่าเป้า เพราะอยู่ในหมู่บ้านไม่มีเวลาดูแลเขา และเราก็ไม่มีความรู้" สุจินต์กล่าวขณะที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า เธอบอกว่าจะไม่ให้ลูกสาวคนเล็กกลับไปเรียนที่โรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยาอีกแล้ว เพราะยังไม่รู้ว่าจะหายดีเมื่อไหร่ และเมื่อไม่มีพี่สาวคอยอยู่ดูแลที่โรงเรียนด้วยแล้ว ก็อยากจะให้มาอยู่กับบ้าน
ขณะที่ในวันนี้ (24 พ.ค.) หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย พร้อมจะนำข้อเรียกร้อง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการศึกษาของกลุ่มชาติพันธุ์ ให้มีโอกาสและคุณภาพมากยิ่งขึ้น ส่วนทางกระทรวงสาธารณสุขเตรียมจัดทีมลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัวของผู้สูญเสีย รวมถึงผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วย