วันนี้ (13 มิ.ย.2559) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้า คสช.กล่าวถึงกรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เตรียมขยายสาขาศูนย์ปราบโกงประชามติ ไปยังระดับจังหวัดในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ และยังมีการคาดการณ์ว่าภายในสัปดาห์นี้ นปช.จะเข้ายื่นหนังสือในองค์การสหประชาชาติ (UN) และสถานทูตต่าง ๆ เพื่อขอให้ส่งคนมาร่วมสังเกตการณ์ประชามตินั้น
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กำลังหาช่องทางยุติการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ดังกล่าว โดยอ้างอิงถึงเหตุผลว่าคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่างก็มีหน้าที่ในการจัดออกเสียงประชามติอย่างโปร่งใส จึงย้ำว่าไม่มีเหตุผลจำเป็นในการตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติของ นปช.
"ไม่เอา ไม่ให้ตั้ง อย่างงั้นใครก็ตั้งได้ คุณก็ไปตั้งสิ่ ศูนย์ปราบโกง มีหน่วยงานดำเนินการอยู่แล้ว แล้วก็เป็นเรื่องภายในของประเทศ ทำไมจะต้องเอาใครมา" พล.อ.ประวิตร กล่าว
ก่อนหน้านี้ พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. ระบุว่า คสช.กำลังจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. ด้วยเหตุที่เคยเป็นคู่ขัดแย้งและมีส่วนได้เสียทางการเมืองอาจมีนัยยะอื่นแอบแฝง ทั้งนี้ยังเคยลงนามในประกาศ คสช.ฉบับที่ 39/2557 เรื่องการกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวบุคคล และประกาศ คสช.ฉบับที่ 3/2558 ว่าด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อย ดังนั้น หากพบการกระทำที่เข้าข่ายความผิด จะต้องถูกดำเนินคดี
นปช.เปิดทำการศูนย์ปราบโกงประชามติ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ด้วยบทบาทนั้นได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้เข้าใจถึงการทำหน้าที่ตรวจสอบด้วยมุ่งหวังให้เกิดความโปร่งใสและอิสระ