กระแสตอบรับดีจนเป็นคอนเสิร์ตแรกของไทยที่ถ่ายทอดแบบสตรีมมิ่ง "รวมวง ธงไชย" จึงอาจเป็นคอนเสิร์ตที่จะได้เห็นอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ แต่คงไม่ใช่กับแฟนเพลงชาวไทย เพราะโปรเจคต์ใหญ่ของ "เบิร์ด ธงไชย" คือการเดินทางไปเปิดการแสดงใน 10 ประเทศอาเซียน เริ่มที่กัมพูชาเป็นที่แรก หลังชิมลางตลาดด้วยการไปหาแฟนเพลงเมียนมามาแล้วเมื่อปีก่อน การบุกตลาดอาเซียนของศิลปินระดับแม่เหล็กฝั่งอโศก กำลังเป็นอีกกลยุทธ์ของค่ายเพลงที่ต้องการขยายตลาดเพื่อสร้างฐานคนฟังเพลงกลุ่มใหม่ให้มากขึ้น
ขณะที่ค่ายดังฝั่งลาดพร้าวซึ่งปูทางธุรกิจไว้ดีด้วยช่องดาวเทียมในมือ ก็รุกตลาดเพื่อนบ้านหนักขึ้น เช่น การดึงคนดังฝั่งลาว "ลูกน้ำ ทิดาลัด" มิสลาว ปี 2011 มาประกบคู่ซูเปอร์สตาร์ในสังกัด "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ทำมิวสิกวิดีโอเพลง "เวลาเดียวกัน" ความยาวกว่า 15 นาที เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในประเทศลาว
แม้รายได้หลักของศิลปินมาจากงานโชว์และคอนเสิร์ตเป็นหลัก แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาการจัดคอนเสิร์ตศิลปินไทยกำลังมาถึงจุดอิ่มตัว เห็นได้จากการเวียนกลับมาจัดคอนเสิร์ตของศิลปินรุ่นเก่า รวมถึงผู้จัดก็ต้องเปลี่ยนมาทำโชว์รวมนักร้องหลายคนไว้บนเวทีเดียวกัน นอกจากดึงดูดแฟนเพลงที่ด้วยรายชื่อศิลปินที่ชื่นชอบ ยังลดความเสี่ยงให้บัตรขายได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งเหตุผลสำคัญคือนักร้องยุคนี้แทบไม่มีผลงานใหม่ที่สร้างกระแสได้พอจะเรียกแฟนเพลงได้เหมือนในอดีตอีกต่อไป
ในยุคที่เพลงไม่สามารถสร้างรายได้อีกต่อไป การขยายฐานคนฟังไปต่างประเทศและการจัดคอนเสิร์ตให้มากที่สุดอาจยังไม่ตอบโจทย์ ทำให้ค่ายเพลงใหญ่ใช้กลยุทธนำชื่อเสียงของนักร้องมาเพิ่มมูลค่า อย่างทางฝั่งอโศกก็มีแผนบุกสื่อสังคมออนไลน์ของนักร้องดังให้ใช้ได้ไม่ต่างจากพื้นที่โฆษณาเพื่อหารายได้ เพราะมีศักยภาพเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ด้านฝั่งลาดพร้าวนอกจากใช้วิธีแต่งเพลงให้สินค้า ยังหันมาเปิดผลิตภัณฑ์ความงามขายผ่านสื่อและนักร้องในสังกัด สิ่งที่เกิดขึ้นในวงการเพลงยุคนี้ยังเป็นภาพสะท้อน ปรากฏการณ์ "แม่น้ำเปลี่ยนสาย" ที่ธุรกิจเพลงไม่ได้มีเพื่อขายเพลงอีกต่อไป