ผู้สื่อข่าวตรวจสอบที่เกิดเหตุช้างพลาย "เพิ่มพูน" ล้มบริเวณเกาะกลางถนน จ.นครนายก อีกครั้ง พบว่ามีสายไฟอีกส่วนหนึ่งพาดจากเสาไฟฟ้าริมถนนมายังเสาของแขวงทางหลวง แล้วต่อสายลงมาด้านล่าง ซึ่งมีตัวอักษรเขียนว่าเทศบาลเมืองนครนายก
พ.ต.อ.โฆษิต บุญทวี ผู้กำกับการตำรวจภูธร จ.นครนายก กล่าวว่า ตำรวจไม่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนเรื่องไฟฟ้ารั่ว แต่จะสอบสวนแค่เรื่องช้างล้ม เพราะตามกฎหมายห้ามนำช้างออกมาเดินเร่ร่อนบนท้องถนน
ขณะที่นายฤทธี อินทีวร รองผู้จัดการไฟฟ้า จ.นครนายก ด้านเทคนิค ระบุว่า จากการตรวจสอบพบสายไฟในที่เกิดเหตุมีสภาพค่อนข้างเก่าเพราะใช้งานมานาน ซึ่งในช่วงหน้าฝนอาจทำให้บริเวณที่พันเทปมีรอยรั่ว หรือเกิดการซึม จึงสันนิษฐานว่าสาเหตุที่ช้างล้มอาจเกิดจากไฟฟ้ารั่ว
ด้านนายไพรจิต โพธิจันทร์ ผู้อำนวยการแขวงการทาง จ.นครนายก ให้สัมภาษณ์ว่า ฝ่ายวิศวกรรมและฝ่ายปฎิบัติการ ตรวจสอบไม่พบอุปกรณ์ของแขวงการทางเกิดการรั่วของไฟฟ้า แต่มีสายพ่วงลงมา ซึ่งยังไม่ได้สรุปว่าเป็นของหน่วยงานใด
สอดคล้องกับนายพิสิษฐ์ จันทร์กล้า รองผู้อำนวยการแขวงการทาง จ.นครนายก ให้ข้อมูลว่า ช่วงก่อนเข้าฤดูฝน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเสาไฟฟ้าตรงจุดที่ประชาชนเดินข้ามถนนบ่อยๆ จึงมั่นใจว่าไม่มีเหตุไฟฟ้ารั่วจากเสาไฟฟ้าของแขวงทางหลวงแน่นอน แต่กรณีนี้คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าช็อต เพราะมีการต่อสายไฟพ่วงกับของกรมทางจำนวนมาก
ขณะที่นายยงยศ อิสระเสนารักษ์ นายกเทศบาลเมืองนครนายก กล่าวว่า ทางเทศบาลไม่ได้เชื่อมต่อสายไฟจากเสาไฟฟ้าที่เกิดเหตุ มาประดับไฟตามสวนย่อม
สำหรับซากช้าง แม้ตำรวจจะทำหนังสือไปยังโรงพยาบาลสัตว์เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ให้ชันสูตรซากช้างเพื่อหาสาเหตุ แต่เจ้าของขอนำซากช้างกลับบ้านเกิดไปทำพิธีทางศาสนาแล้ว