วันนี้ (12 ก.ค.2559) ศาลอนุญาโตตุลาการ (PCA) ที่กรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ จะประกาศคำตัดสินคดีที่ฟิลิปปินส์ยื่นฟ้องกล่าวหาจีนที่รุกเข้ายึดแนวโขดหินปะการังที่รู้จักกันดีในชื่อ "สการ์โบโรห์ โชล" ซึ่งฟิลิปปินส์ก็กล่าวอ้างว่าอยู่ใน"เขตเศรษฐกิจจำเพาะ" หรือ"เอ็กซ์คลูซีฟ อีโคโนมิค โซน"ของฟิลิปปินส์ ขณะที่จีนนั้นกล่าวอ้างประวัติศาสตร์ว่าทะเลจีนใต้ทั้งหมดเป็นของจีน โดยฟิลิปปินส์ทำการยื่นฟ้องคดีนี้เมื่อปี 2556
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพเรือจีนท้าทายการตัดสินของศาลอนุในวันนี้ด้วยการจัดซ้อมรบโดยใช้กระสุนจริงใกล้หมู่เกาะพาราเซล ด้านเหนือของทะเลจีนใต้เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันสหรัฐอเมริกาก็ประกาศว่า ได้ส่งกองเรือพิฆาตเข้ามาลาดตระเวนทางด้านใต้ของทะเลจีนใต้แล้ว ซึ่งการแสดงแสนยานุภาพทางทหารเผชิญหน้ากันก็ทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ทวีความร้อนระอุรับการประกาศคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ โดยคดีนี้ยังนับเป็นคดีแรกที่มีการใช้ศาลระหว่างประเทศเข้าจัดการแก้ไขข้อพิพาทของชาติต่างๆ ภายในภูมิภาคที่กล่าวอ้างอธิปไตยและผลประโยชน์ทับซ้อนกันในทะเลจีนใต้ ด้านสหรัฐอเมริกานั้นไม่ได้กล่าวอ้างความเป็นเจ้าของพื้นที่ส่วนใดของทะเลจีนใต้ แต่อ้างเรื่องสิทธิการเดินเรือและการบินผ่านน่านน้ำสากลได้โดยเสรีตามกฏหมายระหว่างประเทศ
จีนไม่ยอมเข้ามาเป็นคู่ความในคดีนี้พร้อมทั้งยังประกาศด้วยว่าจะไม่ยอมรับคำตัดสิน แต่อย่างไรก็ตามศาลพีซีเอได้ทำการวินิจฉัยไปแล้วว่าศาลพีซีเอ ซึ่งก็เป็นหน่วยงานของสหประชาชาติมีขอบเขตอำนาจที่จะทำการตัดสินและคำพิพากษาก็ผูกพันจีนให้ต้องปฏิบัติตาม ทั้งนี้มีคาดการณ์ว่า คำตัดสินของศาลพีซีเอจะออกมาในทางที่เป็นผลร้ายกับจีน และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็จะกระทบต่อไทยในทางอ้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ รวมถึงความมั่นคง