พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรวจสอบสถานที่ควบคุมนายสมจิตร จะระแอ ที่ผูกคอเสียชีวิตภายในห้องขังที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.59
นายสมจิตรอายุ 51 ปี อาชีพคนขับรถตู้ ถูกควบคุมตัวจากการเป็นผู้ต้องสงสัยนำกล่องบรรจุวัตถุระเบิดไปฝากไว้ให้กับผู้ดูแลคิวรถตู้โดยสารบาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งฝากถึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครประจำชุดคุ้มครองตำบลบาโรยซิแน และเมื่อเปิดดูพบภายในกล่องเป็นวัตถุระเบิด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ก.ค.2559 นายสมจิตรถูกนำตัวมาคุมขังที่ศูนย์พิทักษ์สันติ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2559
พล.ต.ต.ดุษฎี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2559 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ตรวจดูภายในห้องควบคุมตัวนายสมจิตร พบว่านอนหลับอยู่บนเตียงตามปกติ แต่เมื่อกลับมาตรวจอีกคครั้งอีก 30 นาทีต่อมา พบว่าผู้ต้องสงสัยได้ใช้สายฝักบัวอาบน้ำผูกคอเสียชีวิตแล้วจึงติดต่อญาติและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุซึ่งญาติไม่ได้ติดใจกับการเสียชีวิตแต่อย่างใด พร้อมทั้งไม่ประสงค์จะให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลาส่งศพไปตรวจพิสูจน์
พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่าล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ควบคุมผู้ต้องสงสัยในคดีนี้เพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ พร้อมกับยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการด้วยความเที่ยงตรง
ที่ จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าการเสียชีวิตของนักโทษชาย อัซวีรา ดอเลาะ ที่เสียชีวิตหลังจากถูกย้ายจากเรือนจำกลางจังหวัดปัตตานีมาควบคุมตัวที่เรือนจำกลางจังหวัดสงขลามีสาเหตุจากโรคประจำตัวและอาการบาดเจ็บจากเหตุจลาจลที่เรือนจำปัตตานีเมื่อวันที่ 16 ก.ค.2559
เหตุจลาจลที่เรือนจำปัตตานีมีผู้ต้องขังเสียชีวิต 3 คนและบาดเจ็บ 16 คน เจ้าหน้าที่ระบุว่าสาเหตุเกิดจากผู้ต้องขังจำนวนหนึ่งก่อเหตุเพราะไม่พอใจกฎระเบียบที่เข้มงวดของเรือนจำ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ย้ายนักโทษกว่า 230 คน จากเรือนจำกลางจังหวัดปัตตานีไปฝากคุมขังไว้ที่เรือนจำ 4 แห่ง ใน จ.สงขลา
ต่อมานักโทษชายอัซวีราซึ่งถูกคุมขังในคดีร่วมกันลักทรัพย์ในจังหวัดปัตตานีรวม 3 คดี ได้เสียชีวิตเมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ (20 ก.ค.2559) ที่เรือนจำกลางสงขลา เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าสาเหตุมาจากผู้ต้องขังมีโรคประจำตัว และบาดเจ็บจากเหตุจลาจล ทั้งนี้ แพทย์ อัยการ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ร่วมชันสูตรพลิกศพ ก่อนส่งมอบให้ญาติ นำกลับไปประกอบพีธีทางศาสนา ซึ่งญาติ ไม่ติดใจเอาความ ขณะที่วันนี้ (21 ก.ค.) เจ้าหน้าที่เปิดโอกาสให้ญาติเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำกลางปัตตานีได้แล้ว