วันนี้ (6 ส.ค.) เว็บไซต์ www.asahi.com รายงานว่า ศาลเจ้ายาซากะจินจาในเมืองฮิงาชิยามะ เขตเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเทศกาลกิองและเป็นศูนย์รวมจิตใจ ได้ร้องขอไปยังผู้พัฒนาเกมให้นำ “โปเกสต็อป” หรือจุดที่ผู้เเล่นจะเข้าไปรับโปเกบอลและไข่โปเกมอนฟรี ออกไปจากบริเวณศาลเจ้า แม้ขณะนี้จะไม่เกิดปัญหาใดๆ แต่มีความกังวลว่าการเล่นเกมโทรศัพท์มือถือในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นความไม่เหมาะสม และเกิดข้อตำหนิผู้เล่นที่เล่นกันหน้าอาคารหลักของศาลเจ้า
เกียวโตมีสถานที่สำคัญมากมายทั้งวัด ศาลเจ้า และสถานที่ทางประวัติศาสตร์อื่นๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะพบเห็นผู้เล่นจำนวนมาก ปราสาทนิโจในเมืองนาโกย่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ได้ติดตั้งป้ายสัญญาณทั้งในภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ “กรุณางดเว้นการเล่นเกมโปเกมอนโกและใช้โทรศัพท์ขณะเดิน”
“เราตัดสินใจที่จะตั้งข้อห้ามนี้เนื่องจากอาจเกิดความวุ่นวายขึ้นได้หากมีผู้เล่นมากกว่านี้” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของปราสาทนิโจกล่าว
แต่ไม่ใช่ทุกสถานที่ท่องเที่ยวที่จะระแวดระวังเจ้าเกมนี้ อย่างวัดไคเก็นจิในเมืองฟุคุชิยาม่า กลับมีจุดชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ไว้บริการผู้เล่น เมื่อวัดอันเงียบเหงาแห่งนี้ถูกกำหนดให้เป็นสนามประลองก็มีผู้เล่นมาเยี่ยมเยียนทุกวันตั้งแต่มีการเปิดให้เล่นเกมโปเกมอนโกในญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา
มิตสึฮิโระ ชิบาฮาระ หัวหน้านักบวชวัย 36 ปี ได้ยินมาจากเพื่อนว่าเกมนี้ใช้แบตเตอรี่เปลืองมาก เขาจึงสร้างกล่องพร้อมที่ชาร์จ 4 อันสำหรับไอโฟนและแอนดรอยด์ ติดตั้งที่หน้าหอคันนนโด แล้วยังเสนอให้ผู้เล่นใช้น้ำและห้องน้ำสำหรับผู้ที่มาไหว้พระ
“มันเป็นไปได้เพราะเราอยู่ในชานเมืองซึ่งมีผู้คนน้อย” หัวหน้านักบวชกล่าว “เราพิจารณาที่จะใช้โอกาสนี้ให้ผู้เล่นอายุน้อยได้เข้ามารู้จักวัดแห่งนี้”
วัดนิชิฮอนกันจิในเมืองชิโมเกียวซึ่งมีโปเกสต็อปมากถึง 8 จุด เป็นวัดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจาก UNESCO นั้น คือวัดแรกที่ขึ้นป้ายแบนการเล่นเกมโปเกมอนโกในวันที่ 26 ก.ค. อย่างไรก็ตาม ทางวัดก็ได้เปลี่ยนการตัดสินใจนี้ และขึ้นป้ายที่แตกต่างกันแทนในวันที่ 29 ก.ค.ว่า “ยินดีต้อนรับผู้ฝึกโปเกมอนสู่วัดนิชิฮอนกันจิ!” และในแผนที่วัดก็ได้ทำสัญลักษณ์จุดโปเกสต็อปอีกด้วย ขณะที่สมาชิกวัดบางส่วนมีความกังวลเช่นกันว่าการแบนเกมโปเกมอนโกนั้นรุนแรงเกินไป จึงมีความเอื้ออารีย์ต่อผู้ชื่นชอบเกมโปเกมอนโกมากขึ้น