ฝนที่ตกหนักเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.2559) ใน จ.น่าน เกิดจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ ทำให้มีฝนตกหนักมากกว่า 100 มิลลิเมตร เกือบทั่วทุกอำเภอของ จ.น่าน โดยเฉพาะที่ อ.ปัว ฝนตกมากถึง 188 มิลลิเมตร อ.ท่าวังผา 108 มิลลิเมตร และ อ.เมืองน่าน 136 มิลลิเมตร ทำให้น้ำระบายลงสู่ลำน้ำสาขาและตัวแม่น้ำน่านไม่ทัน จึงทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในหลายอำเภอ รวมทั้งในเขตเทศบาลเมืองน่าน
นายชัยประเสริฐ เนตรอนงค์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานน่าน คาดว่า ยอดน้ำสูงสุดที่จะหลากมาในแม่น้ำน่านเข้ามาในเขตเทศบาลเมืองน่าน จะมาถึงในคืนนี้ (15 ส.ค.2559) เวลาประมาณ 21.00-24.00 น.และหากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มมากกว่านี้ก็คาดว่าในวันพรุ่งนี้สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเมืองจะเริ่มคลี่คลาย
ขณะที่วันนี้ ระดับน้ำที่ท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองน่านสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ผู้ปกครองต้องไปรับบุตรหลานจากโรงเรียน เพราะมีการประกาศหยุดเรียนชั่วคราว เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังและเร่งสูบน้ำที่ท่วมขังออกอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ มีการสั่งอพยพชาวบ้านที่บ้านห้วยฟอง ต.ขุนน่าน ไปอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากฝนที่ตกหนักทำให้เกิดดินยุบและดินแยกเป็นแนวยาว
นายวุฒิชัย เสาวโกมุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ระบุว่า น้ำยังคงท่วมในหลายอำเภอ จึงได้ขอพระราชทานถุงยังชีพจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิเพื่อนพึ่งภายามยาก เพื่อนำมาช่วยเหลือผู้ที่เดือนร้อน พร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยการเพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชน
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า แม้วันนี้จะยังคงมีฝนตกหนักในภาคเหนือ รวมทั้งใน จ.น่าน แต่ในระยะ 2 วันนี้ฝนจะตกหนักน้อยลง แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป
ทั้งนี้ สภาพภูมิศาสตร์ของ จ.น่าน ที่อยู่บนที่ลาดเชิงเขา น้ำจึงจะหลากมาเร็วไปเร็ว หากไม่มีฝนตกหนักเพิ่มขึ้นอีก น้ำที่ท่วมนี้จะทยอยไหลไปในแม่น้ำน่านและเข้าไปในเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งขณะนี้เขื่อนยังคงมีน้ำใช้การได้เพียงร้อยละ 23 โดยวันนี้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้นมากกว่า 55 ล้านลูกบาศก์เมตรและยังสามารถรับน้ำได้อีกกว่า 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนได้
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พะเยา แม้น้ำป่าที่ไหลจากลำน้ำงิม เข้าท่วม 5 ตำบลใน อ.ปง รวม 25 หมู่บ้าน ได้ลดระดัลลงแล้ว แต่นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา สั่งการให้ระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือและเตือนประชาชนให้ระวังอันตราย โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยติดกับริมแม่น้ำ เนื่องจากยังมีฝนตกหนัก ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังไม่พบตัวนายนพรัตน์ กันทะเรศร์ อายุ 39 ปี ชาว ต.นาปรับ อ.ปง ที่ถูกน้ำพัดสูญหายไป
ขณะที่ จ.ตาก ฝนที่ตกต่อเนื่องทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาเข้าท่วมพื้นที่บ้านห้วยไม้แป้น ต.มหาวัน อ.แม่สอด เช่นเดียวกับที่ ต.วาเล่ย์ และ ต.พบพระ อ.พบพระ ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำ หลังแม่น้ำเมยเพิ่มระดับสูงขึ้นจนเกือบเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่
ประมวลภาพน้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน
บ้านพักข้าราชการสำนักงาน กศน.น่าน
บริเวณใต้สะพานพัฒนาภาคเหนือ
เขตเทศบาลเมืองน่าน
บ้านหัวนา ต.ท่าน้าว อ.ภูเพียง จ.น่าน