รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิง มือ 4 ของโลก ลงทำการแข่งขันในรอบ 16 คนสุดท้าย พบกับ อากาเนะ ยามากูชิ จาก ญี่ปุ่น เกมแรกแม้ "น้องเมย์" จะออกสตาร์ทได้ดีกว่า แต่ถูก ยามากูชิ เร่งเครื่องในช่วงท้าย จนทำให้ "น้องเมย์" แพ้ไปก่อน 19-21
เกมที่ 2 น้องเมย์ เล่นได้ดีขึ้น จนนำห่างถึง 5 แต้ม แต่ก็ถูกยามากูชิไล่ตามตีเสมอ ก่อนจะแซงนำจนเก็บชัยชนะได้อีกครั้ง คะแนน 21-16 ทำให้ น้องเมย์ แพ้ไป 0-2 เกม คะแนน 19-21 และ 16-21 ตกรอบอย่างน่าเสียดาย
หลังการแข่งขัน รัชนกให้สัมภาษณ์ "ไทยพีบีเอส" ว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นและกดดันทำให้ส่งผลต่อฟอร์มการเล่น
"ตอนแรกพยายามคุมเกมให้ดี พยายามคุมให้เขาเล่นในเกมของเรา แต่พอเขาเริ่มให้เราไปเล่นในเกมแบบของเขา เราก็แก้ไม่ได้และทำให้เราไม่มั่นใจเกมการเล่น ยอมรับว่าตื่นเต้นด้วย แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด" รัชนกกล่าว
เธอยอมรับว่ากดดันตัวเองในการเล่นให้ดีที่สุดเพราะทั้งตัวเธอเองและกองเชียร์ต่างก็คาดหวังที่จะไปถึงฝันให้เร็วที่สุด ทำให้เร่งและบีบตัวเองมากเกินไป
"หลังจากนี้จะดูแลตัวเองให้ดีและฝึกซ้อมเพื่อเตรียมสู้ศึกโอลิมปิกครั้งต่อไปที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และจะพยายามรักษาผลงานของตัวเองให้ดีเหมือนช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่จะไม่กดดันตัวเองว่าตัองได้แชมป์ตลอด แต่อาจจะมีขึ้นมีลง เราต้องไม่คิดถึงสิ่งที่เราแพ้ไป แต่จะต้องปรับปรุงตัวเองให้ดีกว่านี้ พัฒนาฝีมือตัวเองขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอนนี้เรายังไม่ถึงจุดสูงสุดของการเป็นแชมป์หญิงเดี่ยว"
"ถามว่าเสียดายมั้ย ก็เสียดาย (ที่ตกรอบ) แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้เหมือน 4 ปีที่แล้ว เพราะเราก็รู้ว่าเขาตีดี และเรากดดันตัวเอง เราอยากทำให้มันได้ ก็เสียใจที่ตัวเองไม่เข้มแข็งขอ ก็ต้องยอมรับว่าตั้งแต่เห็นสายการแข่งขันก็พอรู้ว่าต้องอาศัยสภาพจิตใจที่เข้มแข็ง นักกีฬามืออันดับต้นๆ ของโลกหลายคนจะพลาดรอบแรกๆ เพราะพบกับคู่ต่อสู้ที่เล่นอย่างไม่มีความรู้สึกกดดันว่าเป็นมือที่เหนือกว่า"
รัชนกฝากหลักคิดถึงนักกีฬาที่อยากประสบความสำเร็จว่า ต้องมีความอดทน "มีร้องไห้เป็นเรื่องธรรมดา แต่เราต้องอดทนไปกับสิ่งที่เราใฝ่ฝัน จะทำตามความฝันได้สำเร็จหรือไม่ ถ้าเราทำเต็มที่แล้วก็ไม่ควรต้องเสียใจ"