วันนี้ (19 ส.ค.2559) นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ "ไผ่ ดาวดิน" นักศึกษากลุ่มดาวดินและสมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ภาคอีสาน ถูกนำตัวจากเรือนจำมายังศาลจังหวัดภูเขียว จ.ชัยภูมิ หลังครบกำหนดฝากขังผัดแรกในคดีแจกเอกสารรณรงค์ประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่ตลาดภูเขียวเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการจังหวัดภูเขียวได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลจังหวัดภูเขียวในทันที โดยฟ้องนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา เป็นจำเลยที่ 1 และนายวศิน พรหมณี เป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาตาม พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 วรรค 2 ก่อนที่ศาลจะออกหมายขังนายจตุภัทร์ ระหว่างพิจารณาคดี
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา บิดาและทนายความของนายจตุภัทร์ได้ยื่นประกันตัว โดยศาลกำหนดหลักทรัพย์ประกันตัวที่ 150,000 บาท นายวิบูลย์ได้ใช้ใบอนุญาตทนายความยื่นประกัน ศาลจึงให้วางเงินสดเพิ่มอีก 30,000 บาท
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตั้งข้อสังเกตว่ากระบวนการสั่งฟ้องในคดีนี้เกิดขึ้นอย่างเร่งรีบ ทั้งที่เพิ่งครบกำหนดฝากขังผัดแรก โดยตั้งแต่วันเกิดเหตุจับกุมจนถึงวันสั่งฟ้องใช้เวลาเพียง 14 วัน ทั้งเจ้าหน้าที่ยังนัดหมายนายวศิน อีกหนึ่งผู้ต้องหาที่ประกันตัวออกไป มาส่งตัวต่อศาลในวันที่ 22 ส.ค. ไม่ได้นัดหมายมาศาลในวันนี้
หลังศาลอนุญาตให้ประกันตัว กลุ่มเพื่อน พี่น้อง และครอบครัวของนายจตุภัทร์ ได้แถลงการณ์หน้าเรือนจำภูเขียว ระบุเหตุผลของการตัดสินใจยื่นประกันตัวนายจตุภัทร์ ว่าตลอดระยะเวลา 12 วันของการต่อสู้อย่างสันติวิธี ด้วยการอดอาหาร ได้พิสูจน์แล้วว่ากระบวนการยุติธรรมไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมได้ เห็นได้จาก การที่อัยการส่งฟ้องนายจตุภัทร์ ในข้อหาผิด พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเป็นคนสุดท้ายที่ถูกแจ้งข้อหา แต่กลับเป็นคนแรกที่อัยการเร่งรัดส่งฟ้องคดีต่อศาลในวันครบฝากขังผัดแรกทันที
หลังจากที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวนายจตุภัทร์ ตำรวจจังหวัดขอนแก่นก็เข้าควบคุมตัวเขาเพื่อดำเนินคดีฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. กรณีพยายามจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2558 ส่งผลให้นางพริ้ม บุญภัทรรักษา แม่พร้อมด้วยน้องสาวของนายจตุภัทร์ที่มารอรับนั่งขวางรถหน้าประตูเรือนจำเพื่อประท้วงการที่เจ้าหน้าที่อายัดตัวนายจตุภัทร์โดยไม่ยินยอมให้พบญาติเพื่อเซ็นเอกสารมอบฉันทะลงทะเบียนเรียนของมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่นายจตุภัทร์ศึกษาอยู่
"จะให้ลูกเซ็นเอกสาร ในเมื่อเราได้ประกันลูกแล้ว คุณก็มาอายัดตัวต่อ แค่ขอให้เขาเซ็นเอกสารไปลงทะเบียนเรียนคุณยังให้ไม่ได้ มันเกินไปหรือเปล่า ฉันจะใช้ความเป็นแม่ต่อสู้ให้ลูก ขออนุญาตดีๆ แล้วไม่ให้เข้าพบ มันเกินไปหรือเปล่า ความยุติธรรมอยู่ตรงไหน" นางพริ้มพูดกับเจ้าหน้าที่เรือนจำขณะนั่งคุกเข่าประท้วงหน้าเรือนจำ
หลังจากคุกเข่าประท้วงนานประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่เรือนจำได้อนุญาตให้นางพริ้มเข้าพบบุตรชายได้ในระยะเวลาสั้นๆ ก่อนจะนำตัวนายจตุภัทร์ขึ้นรถไปที่ สภ.เมืองขอนแก่น
ด้านนายวิบูลย์ พ่อของนายจตุภัทร์ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสว่า หมายจับในคดีฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช.นี้ออกมานานแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้มาจับกุมตัว เหตุใดจึงต้องมาจับกุมวันนี้
"หมายจับนี้มีมาตั้งนานแล้ว แล้วไผ่ (จตุภัทร์) ก็อยู่ที่ จ.ขอนแก่น เด็กไม่ได้หนีไปไหน ไม่ใช่ว่าหนีมาแล้วมาเจอที่นี่พอดีถึงต้องจับกุมตัว เหตุใดจึงต้องมาจับกันในวันนี้ ก็แล้วแต่สังคมจะคิด" นายวิบูลย์กล่าว
พ่อ"ไผ่ ดาวดิน"ตั้งคำถามว่าเหตุใด ตร.จึงจับกุมลูกชายหลังได้ประกันตัว ทั้งที่มีหมายจับนานแล้ว https://t.co/dDVA6QGIAi https://t.co/bU5YUX9KmV
— ThaiPBS News (@ThaiPBSNews) August 19, 2016
เวลา 20.30 น.เจ้าหน้าที่นำตัวนายจตุภัทร์มาขึ้นศาลทหารขอนแก่นเพื่อขอฝากขัง