วันนี้ (28 ส.ค.2559) นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินพบต้นตอไวรัสมัลแวร์ ที่เป็นต้นเหตุให้ผู้ก่อเหตุสามารถนำเงินสดประมาณ 12 ล้านบาท จากตู้เอทีเอ็มได้แล้ว โดยได้ร่วมกับบริษัท เอ็นซีอาร์ โกลบอล ซีเคียวริตี้ และฝ่ายเทคนิค บริษัท เอ็นซีอาร์ ประเทศไทย ในฐานะผู้ผลิตตู้เอทีเอ็ม ที่ถูกโจรกรรมเงิน พัฒนาโปรแกรมแก้ไขและป้องกันมัลแวร์ ชนิดดังกล่าว โดยเตรียมแผนส่งเจ้าหน้าที่กว่า 60 ทีม เพื่อติดตั้งโปรแกรมใหม่ให้กับตู้เอทีเอ็มของบริษัท เอ็นซีอาร์ ทั่วประเทศ ซึ่งจะทยอยดำเนินการ และจะเปิดให้บริการวันละ 200 ตู้ จากจำนวน 3,343 ตู้ เบื้องต้น เน้นตู้เอทีเอ็มสาขาในห้างสรรพสินค้า และคาดว่าจะครบทั้งหมดภายในเดือนกันยายน
ขณะเดียวกัน บริษัท เอ็นซีอาร์ เตรียมนำโปรแกรมใหม่ เข้าติดตั้งกับตู้เอทีเอ็มทุกประเทศทั่วโลก เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยคดีเดียวกับธนาคารออมสิน อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะทบทวนการซื้อตู้เอทีเอ็มที่กำลังติดตั้งใหม่ในปีนี้ 1,000 ตู้ รวมทั้ง ทบทวนจุดติดตั้งตู้เอทีเอ็มที่มีผู้ใช้บริการน้อย โดยระหว่างนี้ ประชาชนยังสามารถใช้ตู้เอทีเอ็มที่ยังเปิดบริการ หรือผ่านช่องทางอื่นๆ ทั้งเคาน์เตอร์สาขา บริการบนแอพลิเคชั่น และอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งของธนาคาร รวมทั้งใช้บริการที่ตู้เอทีเอ็มได้ทุกธนาคารในเขตพื้นที่เดียวกัน โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมตลอดระยะเวลาที่ตู้ของธนาคารยังปิดให้บริการ
ด้านนางสุมาวดี วาณิชย์เจริญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นซีอาร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ บริษัทฯ ทราบวิธีการทำงานของแฮ็กเกอร์ในการโจมตีครั้งนี้ ทำให้บริษัทมีความมั่นใจในการนำเสนอวิธีการแก้ไข ซึ่งเป็นวิธีที่ถือปฏิบัติและใช้ในการป้องกันการเข้าจู่โจมของมัลแวร์ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกที่ได้รับการยอมรับ
ด้านนางธีรนารถ พ่วงมหา ผู้อำนวยการอาวุโสผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ขณะนี้ลูกค้ามีรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป โดยไปใช้บริการผ่านทางออนไลน์มากขึ้น ธนาคารจึงจับมือพันธมิตร เพื่อเพิ่มลูกค้าผ่านทางออนไลน์เพิ่มขึ้น ส่วนปัญหาการแฮ็กข้อมูลเอทีเอ็ม ยอมรับว่าน่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายลูกค้า เพราะประชาชนจะมีความกังวลความปลอดภัย จึงย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแลความปลอดภัยให้กับลูกค้าอย่างรัดกุม สำหรับสินเชื่อใหม่ปีนี้ ขยายตัวไม่สูงมาก โดยตั้งเป้าหมายว่าจะขยายบัตรเงินสดเเละบัตรเครดิตใหม่ได้ 80,000 ใบ แต่น่าจะอยู่ที่ 56,000 ใบ
ส่วนการรับลูกค้าใหม่จะมีการตรวจสอบลูกค้าอย่างเข้มงวด และไม่น่ากังวลเรื่องหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) เพราะธนาคารธนชาตสามารถจัดการได้ โดยปัจจุบัน เอ็นพีแอลภาพรวมอยู่ที่ร้อยละ 3 ของสินเชื่อทั้งหมด แต่ธนาคารสามารถบริหารได้ที่ร้อยละ 2 โดยมีทีมคอยจับตาลูกหนี้เป็นพิเศษ