จากการเปิดเผยของเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ กรณีวัดอู่ทรายคำสร้างอาคารสูงกว่าหอไตรไม้เก่าแก่ อายุกว่า 100 ปีและมีภาพห้องพักที่ดูคล้ายห้องพักโรงแรม มีเตียงนอนและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในวัด ระบุว่าเป็น "ศูนย์ที่พักอาคันตุกะสงฆ์และผู้ติดตาม" จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม
เทศบาลนครเชียงใหม่ ชี้แจงว่าทางวัดได้ยื่นขออนุญาตสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 4 ชั้น ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุญาต แต่วัดได้ดำเนินการก่อสร้างไปก่อนแล้วจึงสั่งระงับการก่อสร้างไว้ก่อน แต่จากการสังเกตการณ์กลับพบว่าการก่อสร้างอาคารยังคงดำเนินต่อไปและลูกศิษย์วัดอ้างว่าอาคาร 3 ชั้นไม่ได้เปิดให้บริการเป็นโรงแรมที่พัก แต่เปิดให้เฉพาะพระสงฆ์ที่มีความจำเป็น เช่น มารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลใน จ.เชียงใหม่ หรือมาติดต่อธุระแล้วไม่มีที่พัก
ด้านนางเสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณีนี้กระทบต่อความเชื่อความศรัทธาของผู้คนที่มีต่อพระพุทธศาสนาและความพยายามของทุกภาคส่วนในการผลักดันเมืองเชียงใหม่สู่การเป็นเมืองมรดกโลก ล่าสุดทางเครือข่ายฯ ได้หารือกับนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการให้ถูกต้องเหมาะสม โดยเตรียมยื่นหนังสือทางการผ่านศูนย์ดำรงธรรมให้ตรวจสอบต่อไป