นายศิริชัย แป้นบางนา วิทยากรสอนนวดเพื่อสุขภาพของ กศน.เขตคลองสามวา นำหลักฐานที่เป็นใบประกาศนียบัตรทั้งหมดที่เคยผ่านหลักสูตรจากสถาบันการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข มาแสดงต่อทีมข่าวไทยพีบีเอส หลังเอกสารทั้งหมดถูกปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ไม่สามารถขึ้นทะเบียนเป็นหมอนวดตามกฎหมายใหม่ได้ โดยนายศิริชัย ยังกล่าวถึงเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ใช้อ้างว่าชื่อหลักสูตร จำนวนชั่วโมงและปี พ.ศ.ไม่ตรงหลักสูตรกลางที่กรมอนุมัติ จึงไม่เข้าข่าย
ขณะที่ น.ส.ชุติกาญจน์ อสิกัน เจ้าของร้านนวดเพื่อสุขภาพ รู้สึกหนักใจ เพราะนอกจากจะต้องปรับปรุงร้านให้ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น มีความโปร่งใส ติดตั้งระบบดับเพลิงเพื่อความปลอดภัย รวมถึงรายละเอียดอื่นที่ สบส.ยังไม่ได้แจ้งแก่ร้านนวดแล้ว ยังต้องดูแลหมอนวดในร้าน หากต้องไปเรียนเพิ่มเติมก็อาจเสียกำลังคนและลูกค้าประจำไป
ตาม พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่จะมีผลบังคับใช้ 27 ก.ย.2559 กำหนดให้ผู้มีอาชีพนวดเพื่อสุขภาพต้องขึ้นทะเบียนกับ สบส.โดยคุณสมบัติต้องผ่านการเรียนหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งจาก 11 หลักสูตรกลาง ซึ่งได้อนุมัติให้กับสถาบันต่างๆ รวมกว่า 600 หลักสูตร
นายธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดี สบส.เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องทั้ง 4 ภาคและสมาคม ส่วนใหญ่พึงพอใจกฎหมายฉบับใหม่ เพื่อหวังยกระดับอาชีพนวดเพื่อสุขภาพให้มีความยั่งยืนและลบภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในอดีต
"สถานประกอบการบางแห่งระบุว่า เป็นร้านนวดเพื่อสุขภาพ แต่อาจจะมีการแอบแฝงเป็นสีเทาบ้าง หรือเปิดเป็นสปาแล้วมีการแอบแฝง ซึ่งตอนนั้นกฎหมายฉบับนี้ยังไม่มี ใครจะเปิดก็ได้ แล้วก็ไปขึ้นอยู่กับกฎหมายของสถานบริการ ซึ่งไม่ได้เป็นบริการด้านสุขภาพ เป็นบริการทั่วๆไป แล้วมีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน แต่ถ้าหากเป็นกฎหมายฉบับนี้สิ่งเหล่านี้จะไม่มี เพราะเราถือเป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เข้าไปเจตนารมณ์คือมีสุขภาพที่ดีกลับมา" รองอธิบดี สบส.กล่าว
สบส.ระบุว่า กฎหมายฉบับนี้ครอบคลุมเฉพาะร้านนวดเพื่อสุขภาพ ที่มีลักษณะเป็นสถานประกอบการที่มีแสดงป้ายอย่างชัดเจน ไม่นับรวมรายย่อยที่ไปรับจ้างนอกสถานที่
ขณะที่นายสุกษม อามระดิษ เลขานุการสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย ที่เห็นต่างว่า กฎหมายฉบับนี้สร้างความลำบากให้กับคนทำมาหากินและไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา เพราะผู้ร่างกฎหมายไม่มีความเข้าใจในอาชีพนี้มากพอ
สมาคมแพทย์แผนไทยฯ ได้ยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบ พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ว่า ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เพิ่งผ่านประชามติหรือไม่ เพราะจำกัดสิทธิ์เสรีภาพการประกอบอาชีพและสร้างภาระแก่ประชาชน และเตรียมยื่นขอให้นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ยุติการทำงานของผู้บริหารกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หากยังเดินหน้ากฎหมายใหม่ต่อไป
สำหรับใบอนุญาตประกอบกิจการนวดเพื่อสุขภาพ ต้องต่ออายุทุกๆ 5 ปี ชำระตามพื้นที่ของการประกอบกิจการที่กำหนดไว้ตั้งแต่พื้นที่ไม่เกิน 100 ตร.ม.ค่าใช้จ่าย 500 บาท จนถึงพื้นที่ 400 ตร.ม.ขึ้นไปมีค่าใช้จ่าย 5,000 บาท และค่าธรรมเนียมรายปีๆละ 500 บาท