วันนี้ (2 ก.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือบรรทุกสินค้าในลุ่มน้ำเจ้าพระยา จ.อ่างทอง เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือขนส่งสินค้า เนื่องจากระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและไหลแรง ภายหลังเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเพื่อพร่องน้ำเตรียมรับมวลน้ำจากภาคเหนือเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้การควบคุมเรือเป็นไปด้วยความยากลำบากจนต้องลดจำนวนเรือพ่วง เพื่อความปลอดภัย ขณะที่ชาวนา อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เร่งเกี่ยวข้าว 4,000 ไร่ ก่อนกำหนด 1 สัปดาห์ เนื่องจากกังวลว่าอาจถูกน้ำท่วมเสียหายโดยมีประกาศให้เตรียมรับน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา
นายเอกศิษฐ์ ศักดิ์ดีธนาภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำบำรุงรักษาเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท กล่าวว่า น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ปัจจุบันรับน้ำมาจากแม่น้ำ ปิง วัง ยม น่านและแม่น้ำสะแกกรัง 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีและระบายลงท้ายเขื่อน 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน
ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เขื่อนเจ้าพระยา ยังคงระบายน้ำลงท้ายเขื่อน 798 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16 เมตร 70 เซ็นติเมตร และท้ายเขื่อนที่ 11 เมตร 56 เซ็นติเมตร พร้อมกำชับชาวบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางลงพื้นที่เขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำกักเก็บที่ยังคงอยู่ในเกณท์น้อยมากจนกรมฝนหลวงและการบินเกษตรต้องเริ่มปฏิบัติการเติมน้ำเหนือเขื่อนภูมิพลในช่วงฝนทิ้งช่วง ระหว่างเดือนกันยายนและตุลาคม
สำหรับปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล ขณะนี้มีประมาณ 4,700 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ร้อยละ 35 ของความจุเขื่อน ในจำนวนนี้เป็นน้ำที่สามารถใช้การได้จริงเพียง 917 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงมีความจำเป็นต้องเร่งเติมน้ำในเขื่อนอย่างเร่งด่วน เพื่อรองรับช่วงหน้าแล้ง