รู้มุมหน้าตัวเองดีอยู่แล้วเพราะคุ้นกับการถ่ายแบบและโฆษณา จะให้โพสท่าไหน นาย ณภัทร ก็สอบผ่าน แต่ที่ต้องรอลุ้นผลกันอีกที คืองานละครเรื่องแรก "รักกันพัลวัน" ที่นาย ณภัทร เป็นพระเอกเต็มตัว เพราะเป็นผลงานเรื่องแรกพระเอกคนใหม่เลยต้องพิสูจน์ฝีมือ ตกลงกับคุณแม่ "หมู พิมพ์ผกา" ขอดูแลและเรียนรู้การทำงานในกองถ่ายด้วยตัวเอง ความตั้งใจสูงแบบนี้ "ป้าแจ๋ว ยุทธนา" ผู้กำกับละคร ก็ช่วยเหลือเต็มที่่ กำหนดคิวถ่ายทำใน 1 วันไม่ให้เยอะเกินไป เพื่อให้ นาย ได้ใช้เวลาปรับตัว
ณภัทร กล่าวว่า เกร็งมากเลยครับ ต่างกันเยอะมากกับงานโฆษณาที่เคยถ่ายเพราะอันนั้นถ่ายแค่วันเดียว แต่อันนี้ต้องยาวๆ เลย เราก็ต้องค่อยๆ ปรับ ก็ได้พี่ๆ หลายคนในกองที่แบบช่วยสอนให้เลย ใครเข้ามาให้คำปรึกษา ผมจะรู้สึกดีใจมาก
พิมพ์ผกา กล่าวว่า เขาไม่ปรึกษาอะไรเราเลย ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมไม่เขามาคุย แต่วันหนึ่งก่อนถ่ายเขามาเคาะประตูห้องเราแล้วเอาบทมาให้ดูแล้วก็มาขอความรู้ว่าอ่านบทยังไง วิธีดูคิวดูตารางทำยังไง
ปรีชญา พงษ์ธนานิกร นักแสดง กล่าวว่า น้องนายเขาเกร็งมากเราก็พยายามชวนคุย เพราะตอนเราเล่นครั้งแรกก็เป็นแบบเขา คือเกร็งเหมือนกัน เขาเป็นคนดีมาก วินัยดีสุดๆ
เป็นละครเรื่องแรก นาย ณภัทร ก็ต้องทำการบ้านอย่างหนัก ยิ่งรับบทที่โตกว่าไวเป็นผู้บริหารสวนสัตว์ใหญ่ก็ต้องทำความเข้าใจกับคาแรคเตอร์ตัวละคร ศึกษาจากนิยายต้นฉบับ และสังเกตบุคลิกท่าทางของผู้บริหารจากซีรี่ส์ และภาพยนตร์ทั้งของไทย เกาหลี และอเมริกา มีนักแสดงต้นแบบ คือณเดช คูกิมิยะ, แบรด พิตต์ และแบรดลี่ย์ คูเปอร์ แต่ด่านสำคัญตอนนี้คือการฝึกออกเสียงให้ชัดเจน
ณภัทร กล่าวว่า ผมก็ต้องกลับไปฝึกใหม่เพราะเป็นคนพูดเสียงลงคอ เราเพิ่งพบว่าการแสดงคือสิ่งที่เรารักด้วย อยากทำอะไรหลายๆ อย่างให้ครบ
มีละครติดต่อเข้ามาไม่ขาด แต่ นาย ณภัทร ต้องปฏิเสธโอกาสไป เพราะต้องแบ่งเวลาให้กับการเรียนเป็นหลัก ซึ่งอีกแค่ปีเดียวก็จะจบจากมหาวิทยาลัยมหิดลแล้ว ละครเรื่องนี้เลยวางกำหนดไว้ว่าต้องถ่ายทำให้จบภายในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่ง นาย ณภัทร แบ่งเวลาให้งานละคร 3 วัน และเรียนอีก 3 วัน มีกฎว่าวันอาทิตย์จะไม่รับงานเพื่อหยุดเคลียร์งานของมหาวิทยาลัย และซักซ้อมบทละคร