วันนี้ (19 ก.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักประดาน้ำกำลังปฎิบัติการณ์ค้นหาร่างผู้สูญหายอีก 14 คน โดยค้นหาต่อเนื่องตั้งแต่ค่ำเมื่อวานจนถึงเที่ยงวันนี้ และยังคงมีการสับเปลี่ยนกำลังเข้ามาค้นหากันอย่างเต็มที่ เพื่อให้การค้นหาประสบความสำเร็จ โดยยังคงตรวจสอบท้องเรือและห้องน้ำทั้ง 2 ห้องอีกครั้ง เพื่อหวังว่าจะพบร่างผู้สูญหายติดอยู้ข้างใน
ขณะนี้ มีชุดปฏิบัติการทางน้ำ 70 นาย มีเรือ 4 ลำ เจ๊ตสกี 2 ลำ อุปกรณ์ดำน้ำ 30 ชุด รถตรวจการ 1 คัน เรือเร็ว 1 ลำ ในการค้นหาร่างผู้ที่สูญหายอีก 14 คน
นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเปิดเผยว่า เหตุการณ์เรือล่มลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อปี 2550 แต่ไม่เกิดความสูญเสียมากเหมือนครั้งนี้ ทางจังหวัดจึงเตรียมหารือกับกรมเจ้าท่า ยกระดับความปลอดภัยเรือโดยสาร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก พร้อมสั่งปิดการจราจรทางน้ำในรัศมี 10 กิโลเมตร ที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เพื่อให้เกิความปลอดภัยกับนักประดาน้ำ
ด้านนางชนินทร มีมาก ญาติของผู้สูญหายที่มาติดตามการค้นหาของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ กล่าวว่า ครอบครัวจะมาร่วมประเพณีทุกปี ปกติจะใช้เรือขนาดเล็ก และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่โดยสารเรือลักษณะนี้ อุบัติเหตุเรือล่มทำให้แม่วัย 80 ปีสูญหาย และขณะนี้ยังไม่พบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการสอบสวนคนขับเรือที่เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สารภาพว่าไม่ชำนาญเส้นทางและไม่ใช่คนในพื้นที่ จึงทำให้เกิดเหตุขึ้น
ข้อมูลจากกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยแล้ว 15 คน บาดเจ็บ 46 คน และสูญหาย 14 คน
ล่าสุด เวลาประมาณ 12.30น. นักประดาน้ำพบศพ ด.ช.นวพัฒน์ กระจ่างแสง วัย 8 ปี บริเวณวัดไก่เตี้ย ห่างจากจุดเรือล่มประมาณ 3 กิโลเมตร สรุปยอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม 16 คน และสูญหาย 13 คน
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ พร้อมกำชับผู้ให้บริการขนส่งมวลชนเพิ่มความระมัดระวัง ขณะที่การเยียวผู้ได้รับผลกระทบนั้น รัฐบาลมอบหมายให้หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้ดำเนินการ